M-Flow วิ่งก่อน-จ่ายทีหลัง แก้ปัญหารถติดได้มากน้อยแค่ไหน
หนึ่งปัญหาสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ขึ้นทางด่วน หรือมอเตอร์เวย์ คือการจราจรที่ติดขัดเวลาที่จะจ่ายเงินค่าผ่านทาง โดยหากเป็นกรณีเร่งด่วนด้วยแล้วปริมาณรถยนต์ไม่ต่างอะไรกับการวิ่งตามท้องถนนปกติ แถมยังเสียเวลากับการรอจ่ายเงิน ที่ผ่านมาเราได้เห็น M-Flow เข้ามาใช้นำร่องใช้นำร่องในเส้นทางมอเตอร์เวย์ ได้แก่ 1.ด่านธัญบุรี1 2.ด้านธัญบุรี 2 3.ด่านทับช้าง 1 และ 4.ด่านทับช้าง 2 โดย M-Flow เป็นระบบ AI จัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถยนต์ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล Video Tolling แบบไม่มีไม้กั้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหารถติดหน้าด่าน ซึ่งประชาชนสามารถลงทะเบียนใช้งานที่เว็บไซต์, แอปพลิเคชัน mflowthai ตลอดจุดบริการ 5 แห่ง ได้แก่ กรมทางหลวง (พระราม 6) / ด่านทับช้าง ขาเข้า กม.51+445 / ด่านทับช้าง 2 ขาออก กม.49+035 / สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) บางปะกง 1 ขาออก กม. 49+300 / สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) บางปะกง 2 ขาเข้า กม.49+300 ความพิเศษของ M-Flow คือสมาชิกที่สมัครจะสามารถผ่านด่านเก็บค่าผ่านทางได้เลย แล้วค่อยมาจ่ายทีหลัง โดยกระทรวงคมนาคม คาดการณ์ว่า M-Flow จะระบายรถได้ถึง 2,000-2,500 คัน/ชั่วโมง ช่วยลดความแออัดที่มีอยู่เดิมได้ถึง 5 เท่า อย่างไรก็ตาม บนเส้นมอเตอร์เวย์ที่รถส่วนใหญ่ต้องทำความเร็ว อาจทำให้เกิดกรณีที่มีรถที่ไม่ได้ลงทะเบียนหลุดเข้าไปในช่องทาง M-Flow นำมาสู่ปัญหาการจราจรติดขัด หรือเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งตรงนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการประชาสัมพันธ์บอกกล่าวผู้ขับรถให้รับทราบ เพื่อให้ปัญหาเกิดน้อยที่สุด ทั้งนี้ หลายคนสงสัยว่าหากไม่จ่ายค่าผ่านทางตามเงื่อนไขที่กำหนดจะเป็นอะไรหรือไม่ บอกเลยว่าหากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 10 เท่า ของอัตราค่าบริการที่ตกค้าง ที่มา : www.smartsme.co.th
11 ก.พ. 2022
Binance บุกดูไบรับไลเซนส์สินทรัพย์ดิจิทัล ทำธุรกิจเปิดแลกเปลี่ยนคริปโตฯ
สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตฯ กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนของผู้คนยุคนี้ ด้วยความนิยมจึงทำให้ Binance แพลตฟอร์มด้านการซื้อ-ขายคริปโต เปิดตลาดในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเป็น “ดูไบ” ที่ Binance เตรียมลงหลักปักฐานทำธุรกิจเป็นที่เรียบร้อย Binance ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตฯ ยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศในแถลงการณ์ว่าบริษัทได้รับใบอนุญาตสินทรัพย์เสมือนให้ดำเนินการในดูไบจาก Virtual Asset Regulatory Authority ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล โดย Binance จะได้รับใบอนุญาตแบบ Pre-qualified ที่จะเปิดแลกเปลี่ยนสินค้า และให้บริการกับนักลงทุน ไม่นานมานี้ ดูไบได้ประกาศใช้กฎหมายฉบับแรกที่ควบคุมสินทรัพย์เสมือน และจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมากำกับดูแลเพื่อควบคุมภาคส่วนสกุลเงินดิจิทัล โดยตามรายงานที่ออกมาจาก Binance ระบุว่า หน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์เสมือน (VARA) จะกำกับดูแลอย่างเข้มงวด และควบคุมตามข้อกำหนด FATF ในระยะแรกของการกำกับดูแล “Binance จะได้รับอนุญาตขยายผลิตภัณฑ์ที่มีการแลกเปลี่ยนอย่างจำกัด และบริการสำหรับนักลงทุน รวมถึงผู้ให้บริการทางการเงินอย่างมืออาชีพ โดยผู้ที่รับใบอนุญาตจาก VARA จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด” ด้าน Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Binance กล่าวว่า กฎระเบียบและข้อปฏิบัติที่มีมาตรฐานสูงคือสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาให้อุตสาหกรรมคริปโต-บล็อกเชน ทั่วโลกเติบโต ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เราทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อแสดงให้เห็นว่าสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ตั้งขึ้นมาได้ อย่างเช่นข้อปฏิบัติของหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์เสมือนดูไบ ทั้งนี้ Binance จะตั้งสำนักงานโดยยึดศูนย์กลางเทคโนโลยีบล็อกเชนใน Dubai World Trade Centre เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ และสร้างระบบนิเวศเพื่อรองรับการดำเนินการ ที่มา : www.smartsme.co.th
10 ก.พ. 2022
ก.ล.ต ออกเกณฑ์ห้ามใช้คริปโตฯ จ่ายสินค้า-บริการ มีผล 1 เม.ย.
กระแสสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตฯ ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในประเทศไทย โดยเป็นทางเลือกการลงทุนที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งมีการออกเหรียญมามากมายเพื่อให้คนได้ซื้อเก็งกำไรในอนาคต รวมถึงผู้ประกอบการที่ขายสินค้าต่าง ๆ มีการริเริ่มเปิดให้ลูกค้านำสกุลเงินดังกล่าวมาชำระค่าบริการแทนเงินสด อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสที่บูมทำให้ต้องมีการออกมาตรการเพื่อควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ โดยเมื่อวันที่ 3 มี.คม ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบหลักการกำกับดูแลผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลในการกำจัดการให้บริการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางชำระค่าสินค้า และบริการ ซึ่งปรับปรุงตามข้อเสนอแนะที่ได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง (ระหว่างวันที่ 25 ม.ค. ถึง 8 ก.พ. 65) ให้มีความเหมาสมยิ่งขึ้น และออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล สรุปสาระสำคัญออกมาเป็น 2 ข้อ ดังนี้ 1.ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภท ต้องไม่ให้บริการหรือกระทำการอันมีลักษณะที่เป็นการสนับสนุน หรือส่งเสริมการชำระเงินค่าสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น การโฆษณา การชักชวนหรือแสดงตนว่าพร้อมให้บริการชำระสินค้าหรือบริการแก่ร้านค้า หรือการจัดทำระบบหรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการ การเปิดกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อวัตถุประสงค์ในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางชำระค่าสินค้า และบริการ เป็นต้น 2.กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พบว่า ลูกค้าใช้บัญชีที่เปิดไว้เพื่อการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ประโยชน์ในการชำระสินค้าและบริการ ผู้ประกอบการธุรกิจต้องแจ้งเตือนเกี่ยวกับการใช้บัญชีผิดวัตถุประสงค์ และไม่ตรงกับเงื่อนไขการให้บริการ และดำเนินการแก่ลูกค้าที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการ ซึ่งรวมถึงระงับการให้บริการชั่วคราว ยกเลิกการให้บริการหรือดำเนินการอื่นใดในทำนองเดียวกัน ทั้งนี้ หลักเกณฑ์มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 และสำหรับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ให้บริการอยู่ก่อนแล้ว ให้ปฏิบัติเป็นไปตามที่หลักเกณฑ์กำหนดภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ ที่มา : www.smartsme.co.th
09 ก.พ. 2022
ญี่ปุ่นใช้บริการหุ่นยนต์ทำความสะอาด แก้ปัญหาขาดแรงงานคน
บริษัทซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป คอร์ป เผยโฉมหุ่นยนต์ทำความสะอาดซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI โดยวางแผนที่จะเปิดให้บริการเช่าแก่สำนักงานและร้านอาหารในเดือนมีนาคม 2562 หุ่นยนต์ทำความสะอาดซึ่งมีชื่อว่า Whiz มีน้ำหนัก 32 กิโลกรัมและมีความสูง 65 เซนติเมตรนั้น สามารถจดจำเส้นทางทำความสะอาดได้ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ดีกว่าหุ่นยนต์ทำความสะอาดทั่วไปถึง 5 เท่า หุ่นยนต์ Whiz สามารถทำความสะอาดได้ต่อเนื่อง 3 ชั่วโมงสำหรับการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง รวมพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางเมตร โดยทางบริษัทจะเปิดให้เช่าในราคา 25,000 เยน (220 ดอลลาร์) ต่อเดือน ซึ่งจะมีการเปิดรับสมัครในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นายเคนอิจิ โยชิดะ กล่าวว่า หุ่นยนต์ดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นเนื่องจากญี่ปุ่นขาดแคลนแรงงานในการทำความสะอาด หลังจากเผชิญปัญหาประชากรสูงอายุและอัตราการเกิดต่ำ ทั้งนี้ ซอฟต์แบงก์ได้ใช้เทคโนโลยี AI จากบริษัทเบรน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพในเครือวิชั่นฟันของซอฟต์แบงก์ ขณะที่ชิ้นส่วนอื่นๆสั่งทำในประเทศจีน ที่มา : www.smartsme.co.th
08 ก.พ. 2022
ก.ล.ต. ให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 4 ราย
ก.ล.ต. เปิดเผยกระทรวงการคลังโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นชอบการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 4 ราย ปฏิเสธคำขอใบอนุญาตจำนวน 2 ราย และ 1 รายที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ตามที่ได้มีผู้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 จำนวน 7 ราย นั้น กระทรวงการคลังได้แจ้งผลการพิจารณาคำขอรับใบอนุญาตดังกล่าวดังนี้ ผู้ได้รับอนุญาตเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 3 ราย -บริษัท บิทคอยน์ จำกัด (BX) เว็บไซต์ bx.in.th -บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (BITKUB) เว็บไซต์ bitkub.com -บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Satang Pro) เว็บไซต์ satang.pro ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นนายหน้าและผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี (Broker/Dealer) จำนวน 1 ราย -บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด (Coins TH) เว็บไซต์ Coins.co.th กลุ่มที่คำขออนุญาตถูกปฏิเสธจำนวน 2 ราย -บริษัท แคชทูคอยน์ จำกัด (Cash2coin) เว็บไซต์ cash2coins.com -บริษัท เซาท์อีส เอเชีย ดิจิทัล เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด (SEADEX) เว็บไซต์ seadex.io บริษัทที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา -บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (Coin Asset) เว็บไซต์ coinasset.co.th ทั้งนี้ ผู้สนใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบสินทรัพย์ดิจิทัล หรือผู้ลงทุนหรือประชาชนที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.sec.or.th/digitalasset หรือติดต่อ Help Center ของ ก.ล.ต. โทร. 1207 ได้ ที่มา : www.smartsme.co.th
07 ก.พ. 2022
KOL Radar เครื่องมือจับอินฟลูเอนเซอร์ให้อยู่หมัด
"KOL Radar" เป็นเครื่องมือสืบค้นข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์ที่ iKala ได้เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อ "จัดการข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์ให้เป็นระบบ ทำให้เข้าถึงได้ง่ายและเป็นประโยชน์สำหรับผู้โฆษณา" iKala ใช้ AI อย่างกว้างขวางเพื่อวัดผลการทำการตลาดด้วยกลยุทธ์ Influencer Marketing ทั้งยังนำเสนอข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์แก่ผู้โฆษณาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ปัจจุบัน KOL Radar ถูกนำไปใช้งานแล้วโดยผู้โฆษณามากกว่า 4,000 รายทั่วโลก ซึ่งรวมถึงที่อยู่ในทำเนียบ Fortune 500 ทั้งนี้ ข้อมูลจากบริษัทโฆษณา Mediakix เผยให้เห็นว่า ตลาดอินฟลูเอนเซอร์จะมีขนาดเติบโตขึ้นจาก 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561 เป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 มีการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ที่ชัดเจนในด้านการโฆษณา โดยผู้โฆษณาหันมาใช้กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นผลงาน หรือ performance-based marketing แทนการติดตามยอดอิมเพรสชั่น และการแก้ไขปัญหาการวัดผลที่สำคัญเหล่านี้จำต้องอาศัยความสามารถด้าน AI และแมชีนเลิร์นนิง iKala หนึ่งในพันธมิตร Google Cloud รายใหญ่ที่สุด ประสบความสำเร็จในการระดมทุน series A+ จากนักลงทุนกลุ่มเดิม โดยขยายขนาดจากรอบ A ก่อนหน้านี้ เป็น 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากให้บริการเทคโนโลยี AI และคลาวด์แก่ลูกค้าองค์กรแล้ว ปัจจุบัน iKala ยังใช้ขีดความสามารถเหล่านี้ในการแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุดบางประการในวงการโฆษณาอีกด้วย เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ที่น่ายินดีมากที่เทคโนโลยี AI และคลาวด์สามารถช่วยให้ผู้โฆษณาทำการตลาดดิจิทัลแบบ Performance Marketing และจัดสรรงบโฆษณาได้อย่างชาญฉลาด จากสิ่งที่เรียกว่า Cloud for Marketing หรือ C4M ที่มา : www.smartsme.co.th
06 ก.พ. 2022
Smart Panda Bus พร้อมให้บริการผู้โดยสารในมหานครทั่วโลก
Smart Panda Bus รถโดยสารสาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ได้วิ่งอวดโฉมในงาน "New Generation Artificial Intelligence Future Development Summit" ที่นครเซี่ยงไฮ้ เพื่อสร้างนิยามใหม่ให้กับระบบขนส่งสาธารณะ Smart Panda Bus เป็นรถโดยสารอเนกประสงค์ ทำงานร่วมกับ 8 เทคโนโลยีจาก DeepBlue Technology เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ผู้สัญจรบนท้องถนนทั่วโลกเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวประกอบไปด้วย -การขับเคลื่อนอัตโนมัติ (AutoPilot) -การจดจำเส้นเลือดดำที่ปลายนิ้วมือ (Finger Vein Recognition) -การสั่งงานด้วยเสียง (Voice Interaction) -การปล่อยโฆษณาที่ตรงจุด (Precise Advertising Push) -หุ่นยนต์ติดตามยานพาหนะ (Vehicle Monitoring Robot) -ระบบขายปลีกอัจฉริยะที่ไม่มีพนักงานให้บริการ (Intelligent Unmanned Retail System) -ระบบติดตามตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติ (Abnormal Behavior Monitoring System) -ระบบหนีภัยฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Escape Emergency Handling System) เทคโนโลยีทั้งหมดนี้ยังไม่เคยมีใครนำคุณสมบัติทั้งหลายเหล่านี้มาใช้ในการขนส่งสาธารณะมาก่อน ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จะเริ่มให้บริการในเอเชียและยุโรปในปี 2562 โดยในยุโรปนั้นมี เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก อิตาลี และกรีซให้ความสนใจ ที่มา : www.smartsme.co.th
05 ก.พ. 2022
ครั้งแรกของวงการส่งอาหารในประเทศไทย ที่ทำการเปิด “ครัว” เอง
หนึ่งในผู้นำด้านการส่งอาหารในประเทศไทย ก้าวไปอีกขั้นนอกเหนือจากการรับส่งอาหารมาทำการเปิดครัวของตัวเอง แล้วให้อาหารเจ้าดังทำในครัวนี้ แน่นอนว่างานนี้มากกว่าคำว่า “พร้อมส่ง” ฟู้ดแพนด้า ได้เปิดตัวโปรเจ็คใหม่ชื่อว่า "ครัว บาย ฟู้ดแพนด้า" โดยโปรเจ็คนี้คือการนำเอาร้านอาหารชื่อดังมากมายมาประกอบอาหารโดยใช้พื้นที่ห้องครัวที่จัดสรรขึ้น โดยโครงการนี้เริ่มต้นเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในย่านสวนหลวง พระโขนง และวัฒนา รวมไปถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับคู่ค้า ครัวขนาดใหญ่นี้ตั้งอยู่ที่โครงการ The Curve อ่อนนุช ซอย 17 ซึ่งประกอบไปด้วยร้านอาหารดังทั้งหมด 7 ร้าน ได้แก่ คาลิเม็กซ์ เดรส ฮันเตอร์ โป๊ะเกะ ข้าวขาหมูเหม่งจ๋าย ร้านเอลวิสสุกี้ ยอดผัดไท และ โกวนัน โดยห้องครัวนี้ใช้ในการประกอบอาหารเท่านั้น ไม่มีพื้นที่ในการรับประทานอาหารข้างใน ลูกค้าที่ต้องการอาหารจากร้านต่างๆ ในครัว สามารถสั่งอาหารได้ผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน หลักการคือการแชร์ครัวร่วมกัน โดยทางฟู้ดแพนด้าเป็นผู้อำนวยความสะดวกเรื่องการจัดสรรพื้นที่ อุปกรณ์เครื่องครัว และการจัดการระบบพื้นฐาน โดยร้านคู่ค้าที่อยู่ในโครงการสามารถใช้ห้องครัวโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ มีเพียงการแบ่งเปอร์เซนต์การขายเท่านั้น สำหรับลูกค้าของฟู้ดแพนด้าสามารถเลือกอาหารจานโปรดได้จากร้านอาหารหลากหลายร้าน ที่เข้าร่วมโครงการ โดยผู้อยู่อาศัยในย่านสวนหลวง พระโขนง และวัฒนา สามารถสั่งอาหารจากครัว โดยไม่ต้องเสียค่าจัดส่งใดๆ ที่มา : www.smartsme.co.th
04 ก.พ. 2022
กลุ่มธนาคาร ลงทุนสตาร์ทอัพเรื่อง AI Fintech และ Data Analytics
กรุงศรี ฟินโนเวต เดินหน้ายึดความเป็นผู้นำด้าน Corporate Fintech Accelerator โดยมุ่งเน้นไปในการพัฒนาสตาร์ทอัพด้าน AI, Data Analytics และ Fintech บริษัทตั้งเป้าหมายลงทุนตรง (Direct Investment) ในสตาร์ทอัพระดับ Series A และ Series B ที่มุ่งเน้นในเรื่องเทคโนโลยี AI และ Data Analytics เป็นหลัก ซึ่งมองหาโอกาสในการลงทุนทั้งกับสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน โดย Silot จะเป็นสตาร์ทอัพรายแรกที่กรุงศรี ฟินโนเวต ตัดสินใจลงทุนในปีนี้ โดย Silot เป็นสตาร์ทอัพจากสิงคโปร์ โดยผู้ก่อตั้งชาวจีน ซึ่งให้บริการด้านแพลตฟอร์มด้านการธนาคารแบบครบวงจร และมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี AI การลงทุนใน Silot จะเสริมสร้างและพัฒนาระบบชำระเงินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำ Corporate Fintech Accelerator ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 ปี โดยในปีที่ผ่านมาสามารถขยายขอบเขตการเปิดรับ ดึงดูดสตาร์ทอัพจากสิงคโปร์และเวียดนามเข้าร่วมโครงการ ความร่วมมือและการลงมือปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริงส่งผลให้สตาร์ทอัพสามารถเติบโตในอัตราเร่งที่รวดเร็วกว่าเดิม เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสตาร์ทอัพที่ร่วมโครงการเป็นอย่างมาก ที่มา : www.smartsme.co.th
03 ก.พ. 2022
ฟินเทคออกตัวแรง เปิดบัตรเครดิตสำหรับธุรกิจ e-commerce ดิวยาว 60 วัน
บัตรอีคอมเมิร์ซของ Brex เสนอวงเงินเครดิตปลอดดอกเบี้ย 60 วันโดยมีวงเงินตั้งแต่ 1 หมื่นถึง 1 ล้านดอลลาร์ ข้อเสนอแบบนี้ดีกว่าบัตรเครดิตแบบเก่า 3-5 เท่าเลยทีเดียว Brex ธุรกิจบัตรเครดิตที่เพิ่งเปิดทำการได้เพียง 22 เดือน ก็กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 1.1 พันล้านดาลลาร์ไปแล้ว กำลังคิดการใหญ่อีกครั้งด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คือบัตรเครดิตสำหรับ อีคอมเมิร์ซ บัตรใบแรกที่จะสั่นสะเทือนวงการบัตรเครดิตทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะทำการซื้อในวันใดของเดือน คุณยังไม่ต้องชำระเงินไปจนกว่าจะครบ 60 วัน นั่นเป็นเพราะวันที่ครบกำหนดสำหรับบัตร Brex ไม่ได้วิ่งตามวันเวลาบนปฏิทินแบบเก่าที่จะต้องนัดกันทุกสิ้นเดือน ตัวอย่างเช่นหากคุณซื้อสินค้าในวันที่ 1 มกราคม Brex จะดึงเงินจากบัญชีธนาคารของคุณเพื่อชำระค่าใช้จ่ายในวันที่ 2 มีนาคม Brex เชื่อว่าบริษัทบัตรเครดิตไม่เคยเสนออะไรแบบนี้มาก่อน คุณสมบัติการนับวันเวลาครบกำหนดของทุกรายการแบบนี้ เกิดจากเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน แน่นอนว่ามันเป็นซอฟต์แวร์เฉพาะตัวของ Brex โดยกลุ่มเป้าหมายของบัตรแบบนี้คือ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพราะบริษัทเหล่านี้จ่ายเงินก้อนโตไปกับค่าใช้จ่ายรวมถึงสินค้าคงคลัง และการโฆษณาออนไลน์ ซึ่ง Brex มีโมเดลการหารายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม เป็นเงิน 5 ดอลลาร์ต่อผู้ใช้ต่อปี คาดหวังจากกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 600,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่กว่า 75,000 บริษัท รู้สึกตื่นเต้นกับสตาร์ทอัพด้านฟินเทคอย่าง Brex แล้วหรือยัง เกือบลืมบอกไปว่านี้คือบริษัทของเด็กหนุ่มรุ่นใหม่อย่าง Dubugras อายุ 23 ปี และ Franceschi อายุ 22 ปี โดยคนแรกเป็น CEO และคนต่อมาคือ COO ของบริษัท ที่มา : www.smartsme.co.th
02 ก.พ. 2022