แม้ว่าแอปพลิเคชัน Clubhouse จะได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่มีคนดังในแต่ละวงการใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นช่องทางสื่อสารสนทนากัน
แต่อีกด้านหนึ่งกลับมีการตั้งคำถามเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวว่าจะเกิดการรั่วไหลถูกส่งต่อไปยังบุคคลที่ 3 หรือไม่ หลังจากรายงานของ Stanford Internet Observatory (SIOX) ที่ออกมาระบุว่า บริษัท Agora บริษัทสตาร์ทอัพจากเซี่ยงไฮ้ เป็นผู้ดูแลระบบหลังบ้านให้กับแอปฯ Clubhouse ซึ่งข้อมูลทุกอย่างจะถูกส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ในจีน
นอกจากนี้ ระบบป้องกันข้อมูลยังพบว่า Clubhouse มีการส่งต่อข้อมูลขึ้นเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ต้องเข้ารหัสข้อมูล ดังนั้นจึงเปิดโอกาสให้บุคคลที่สามเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้ ไม่เพียงเท่านั้น รายงานยังเผยอีกว่า Agora ได้เปลี่ยนแปลงตัวเลข ID Number และเข้าถึงห้องสนทนากับผู้ใช้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะนำข้อมูลเหล่านี้ส่งต่อไปให้กับรัฐบาลจีน
อย่างไรก็ตาม Agora ออกมาปฏิเสธ โดยชี้แจงว่าบริษัทไม่ได้เก็บข้อมูลผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Clubhouse ตามที่รายงานระบุไว้ ซึ่งบริษัทจะไม่เก็บข้อมูลเสียง และไม่มีการจัดเก็บข้อมูลไว้ในจีน แต่จะเก็บไว้ในสหรัฐฯ นั่นหมายความว่า หากทางการจีนต้องการข้อมูลก็จะต้องส่งเรื่องไปทางรัฐบาลสหรัฐฯ ตามข้อตกลง U.S.-China Mutual Legal Assistance Agreement (MLAA) ดูแบบนี้แล้วจึงเป็นเรื่องยาก
ย้อนกลับไปต้นเดือนกุมภาพันธ์ แอปพลิเคชัน “Clubhouse” ถูกแบนในจีน หลังมีการตรวจพบว่ามีการสร้างห้องสนทนาพูดคุยเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ทั้ง เรื่องสิทธิมนุษยชน, การเมืองฮ่องกง, อุยกูร์, การเรียกร้องประชาธิปไตยในไต้หวัน
ทั้งนี้ หลังจากแอปพลิเคชัน Clubhouse กลายเป็นที่นิยมของผู้ที่อยากสร้างคอนเทนต์ จึงทำให้ Agora มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อย
ที่มา: stanford
https://www.smartsme.co.th/content/243701