ธนาคารแห่งประเทศไทย เตรียมทดลองใช้สกุลเงินดิจิทัลออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ช่วงไตรมาส 2/2565 ให้กับภาคประชาชน สำหรับแผนงานสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ทางธนาคารแห่งประเทศไทยทำการศึกษา และพัฒนาเรื่อยมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงิน ใช้จ่ายได้อย่างสะดวก ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งการออกสกุลเงินดิจิทัลของ CBDC สามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินได้ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ อีกทั้ง ยังเป็นการประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในภาคการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนในระบบการเงิน ตลอดจนการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินให้นำมาสู่การเกิดบริการทางการเงินในหลากหลายรูปแบบในอนาคต เช่นเดียวกับประชาชนที่สะดวกต่อการพกพาเคลื่อนย้าย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่าจะเริ่มทดลองใช้สกุลเงินดิจิทัลนี้กับภาคประชาชนในวงจำกัด ช่วงไตรมาส 2/2565 หลังจากเริ่มเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน ทั่วไป รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชน จนถึงวันที่ 15 มิ.ย.64 ที่มา : https://www.smartsme.co.th/content/244004

แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ (LG Electronics) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ ประกาศแผนการถอนตัวออกจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือในปีนี้ เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุนมานานหลายปี แถลงการณ์จากแอลจีระบุว่าการตัดสินใจปิดหน่วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารในช่วงเช้าวันจันทร์ (5 เม.ย.) ท่ามกลางผลประกอบการที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากการรับมือการแข่งขันอันดุเดือดกับคู่แข่งรายใหญ่อื่น ๆ อย่างไม่เพียงพอ หน่วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือของแอลจีจะปิดตัวลงอย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม ขณะสายการผลิตจะสิ้นสุดภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม เพื่อจัดส่งผลิตภัณฑ์แก่พันธมิตรทางธุรกิจตามสัญญา อย่างไรก็ดี แอลจีจะให้การสนับสนุนด้านบริการ และการอัปเดตซอฟต์แวร์ผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือที่ลูกค้าใช้งานอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งและขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค ทั้งนี้ แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเคยเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เผชิญภาวะขาดทุนในธุรกิจโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2015 แอลจีชี้แจงว่าการถอนตัวจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่มีการแข่งขันสูงครั้งนี้จะช่วยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรในธุรกิจอื่นๆ ที่กำลังเติบโต อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์เชื่อมต่อ อุปกรณ์สมาร์ตโฮม หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ และการให้คำแนะนำแก่การค้าแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) ตลอดจนแพลตฟอร์มและบริการอื่นๆ ทั้งนี้ แอลจีจะยังคงใช้ประโยชน์จากความชำนาญด้านโทรศัพท์มือถือ และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน ซึ่งรวมถึง 6จี (6G) เพื่อเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันในภาคธุรกิจอื่น ๆ ต่อไป ที่มา: สำนักข่าวซินหัว https://www.smartsme.co.th/content/244014

เชื่อว่าหลายคนคงอยากลิ้มลองกาแฟหอมกรุ่นที่ชงโดยหุ่นยนต์ ว่าจะแตกต่างกับกาแฟที่ชงโดยมนุษย์หรือไม่ วันนี้เราจะพาไปชมบรรยากาศงานสัปดาห์กาแฟในนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-11 เม.ย. นี้ โดยภายในงานมีการจัดแสดงฝีมือการชงกาแฟของกองทัพ ‘หุ่นยนต์บาริสต้า’ จากหลากหลายบริษัท โดยหุ่นยนต์เหล่านี้สามารถทำกาแฟได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดริป หรือกระทั่งลาเต้อาร์ต เจ้าหน้าที่จากบริษัทหุ่นยนต์ชงกาแฟแห่งหนึ่งกล่าวว่าเครื่องชงกาแฟของบริษัทสามารถชงกาแฟได้มากถึง 400 แก้วต่อวัน อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจได้แก่ตู้ชงกาแฟที่สามารถทำน้ำแข็งได้ภายในเวลา 3 วินาที อันเป็นผลงานนวัตกรรมที่ร่วมกันสร้างขึ้นโดยกลุ่มวิศวกร 38 คน โดยมีการผสมผสานเทคโนโลยีต่าง ๆ ไว้มากมาย เช่น เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและระบบอัตโนมัติ ทั้งยังได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ รัสเซีย สเปน แลประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ดี ผู้ก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตตู้ชงกาแฟรุ่นนี้กล่าวว่า ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะใหม่ๆ และรสชาติใหม่ๆ ของกาแฟนั้น ยังคงต้องอาศัยฝีมือของบาริสต้าซึ่งเป็นมนุษย์อยู่ดี ที่มา: สำนักข่าวซินหัว https://www.smartsme.co.th/content/244028

อำนาจเจริญ ระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2565 - ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) มอบหมายให้ กลุ่มพัฒนาการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม ร่วมประสานหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมเปิดตัวการใช้ตราสัญลักษณ์ และศูนย์จำหน่ายสินค้าของสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมคลัสเตอร์สมุนไพรและอาหารเพื่อสุขภาพ จังหวัดอำนาจเจริญ ณ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า สวนสาธารณะมิ่งมงคล (หอนาฬิกา) โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ นายธนูสินธ์ ไชยสิริ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน

ยโสธร 10 มีนาคม 2565 ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) มอบหมายให้ นายกฤษณะ นอขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ประจำจังหวัดยโสธร โครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME พ.ศ.2565 ณ ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยโสธร โดยมี นายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธาน.สำหรับโครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME , โครงการสินเชื่อสร้างโอกาสเสริมสภาพคล่อง SME , โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู SME จะสามารถช่วยให้เอสเอ็มอีที่มีความต้องการเงินทุนในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และสามารถคงการจ้างงานได้ และนอกจากมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินแล้ว กองทุน ฯ ยังมีชุดโครงการส่งเสริมพัฒนาต่าง ๆ ไว้ให้บริการแก่ SME อีกด้วย เช่น การให้คำแนะนำเรื่องการจัดทำแผนความต่อเนื่องของธุรกิจ หรือที่เรียกว่า Business Continuity Plan การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจด้วยระบบออโตเมชั่น และการเชื่อมโยงงานวิจัยสู่การตลาด เป็นต้น.#DIPROM #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่7

อำนาจเจริญ 10 มีนาคม 2565 ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) มอบหมายให้ นายฉาย ทองละมุล ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงานภูมิภาค เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ โครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME พ.ศ.2565 ณ ห้องประชุมพระมงคลมิ่งเมือง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมี นายธนูสินธ์ ไชยสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธาน กรอบวงเงินคำขอสินเชื่อ 55 ล้านบาท . #DIPROM #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่7 #DIPROMCENTER7

ศรีสะเกษ 10 มีนาคม 2565 ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) มอบหมายให้ นายสุเทพ ทุตา ผู้อำนวยการพัฒนาการส่งเสริมอุตสาหกรรมชุมชน เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ณ ห้องประชุม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธาน.สำหรับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) คือ ข้อกําหนดด้านคุณภาพที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นที่เชื่อถือ เป็นที่ยอมรับ และสร้าง ความมั่นใจให้ับผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กําหนด.เจ้าหน้าที่ร่วม.นายสมชาย เชาว์ประโคน.#DIPROM #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่7

การจัดงานประชุม HUAWEI CLOUD Tech Summit ครั้งที่สอง ในวันที่ 8 เมษายน 2021 จัดภายใต้ธีม “นวัตกรรมที่เข้าถึงได้โดยทุกกลุ่มคน” (“Inclusive Innovation”) ในเซินเจิ้น ซึ่งผู้ร่วมงานได้ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี cloud native เทคโนโลยีคลาวด์แบบกระจาย และเทคโนโลยีภาพวิดีโอและเสียง โดยได้แลกเปลี่ยนไอเดียเกี่ยวกับนวัตกรรมในอุตสาหกรรม Bruno Zhang ซีทีโอของ HUAWEI CLOUD ได้นำเสนอการยกระดับเทคโนโลยี cloud native แบบเต็มรูปแบบขึ้นไปอีกขั้น ไปจนถึงแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ HUAWEI CLOUD ประจำปี 2021 และผลิตภัณฑ์คลาวด์แบบกระจาย ซึ่งมุ่งให้บริการระบบคลาวด์และระบบอัจฉริยะในทุกที่ทุกเวลาสำหรับทุกคน “เมื่อปลายปีที่แล้ว HUAWEI CLOUD ได้เปิดตัวคอนเซ็ปต์และโซลูชัน Cloud Native 2.0 ซึ่งได้รับการยอมรับโดยลูกค้าและคู่ค้าเป็นวงกว้าง ในปี 2021 นี้ HUAWEI CLOUD จะยังคงมุ่งพัฒนานวัตกรรมและยกระดับสมรรถนะเชิงเทคนิคของผลิตภัณฑ์ cloud native อย่างเต็มรูปแบบต่อไป ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยี cloud native และคลาวด์แบบกระจาย เราจะช่วยให้องค์กรได้ใช้ประโยชน์จากสมรรถนะ cloud native อย่างเต็มรูปแบบได้ทุกที่ตามความต้องการของบริการต่าง ๆ เพื่อให้บริการระบบคลาวด์และระบบอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบในทุกที่ทุกเวลา” Bruno Zhang ซีทีโอ HUAWEI CLOUD กล่าว Jacqueline Shi ประธานฝ่ายการตลาดและบริการการขายระดับโลก แผนกคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ ประกาศเปิดตัวเทศกาลระดับนานาชาติ HUAWEI CLOUD Carnival ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเซินเจิ้น ด้วยการสนับสนุนเชิงเทคนิคและคูปองมูลค่า 100 ล้านหยวนที่จะมอบให้แก่องค์กรอินเทอร์เน็ตและองค์กร cloud native ในท้องถิ่น งานเทศกาล HUAWEI CLOUD Carnival นี้จะจัดขึ้นทั่วโลก โดยจะจัดใน 10 เมืองในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เซินเจิ้น และเมืองในมณฑลเสฉวน เจียงซู ฝูเจี้ยน เจ้อเจียง หูนาน และหูเป่ย นอกจากนี้ยังจะจัดในฮ่องกง สิงคโปร์ ลาตินอเมริกา และแอฟริกาใต้ด้วย ที่มา : https://www.smartsme.co.th/content/244063

“Netflix” ยอดวูบ หลังคนฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้นกล้าออกจากบ้าน ผู้ใช้บริการใหม่กว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ย ทำหุ้นร่วง 11% บริษัทเน็ตฟลิกซ์ อิงค์ ผู้ให้บริการ “Netflix” สตรีมมิ่งวิดีโอของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การผลิตรายการทีวีและภาพยนตร์ที่ชะลอตัวในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้บริการในไตรมาสแรกของปี 2564 และส่งผลให้ราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์ร่วงลง 11% เมื่อวานนี้ (20 เม.ย.64) รายงานระบุว่า มีผู้ใช้บริการ Netflix ใหม่ประมาณ 3.98 ล้านรายในไตรมาส 1/2564 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของนักวิเคราะห์จากผลสำรวจของ Refinitiv ที่ 6.25 ล้านราย โดย “Netflix” เองยังคาดการณ์ว่า ผู้ใช้บริการใหม่จะเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านรายในไตรมาสที่ 2/2564 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 4.8 ล้านราย การคาดการณ์ของ “Netflix” ว่าจะมีลูกค้าสตรีมมิ่งใหม่สุทธิเพียง 1 ล้านราย ถือเป็นยอดการขยายตัวต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท ซึ่งเป็นสถิติเปรียบเทียบจากผู้ใช้งานต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 ของปี 56 ที่มียอดผู้ใช้งานกว่า 1 ล้านรายเล็กน้อย ขณะที่ในปีที่ผ่านมา “Netflix” มีจำนวนผู้ใช้บริการใหม่มากถึง 15.8 ล้านราย เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องอยู่กับบ้าน แต่การแพร่ระบาดดังกล่าว ก็เป็นอุปสรรคต่อการถ่ายทำรายการใหม่ๆของบริษัทเช่นกัน สำหรับสาเหตุที่ผู้ใช้บริการ “Netflix” ลดลงนั้น นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในวงกว้าง และประชาชนจำนวนมากเริ่มออกนอกบ้าน มาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว ที่มา : https://www.smartsme.co.th/content/244105

JD.com อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน เริ่มจ่ายเงินเดือนพนักงานบางรายในรูปแบบของเงินหยวนดิจิทัล เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของธนาคารกลางประเทศที่ต้องการขยายฐานผู้ใช้ ที่ผ่านมา ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (PBOC) เริ่มต้นใช้งานการจ่ายเงินในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัล-อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อปี 2014 ที่คาดการณ์ว่าจะเข้ามาแทนที่เหรียญ และเงินสดในอนาคตข้างหน้า แม้ว่าสกุลเงินหยวนดิจิทัลจะยังให้บริการใช้ได้ทั่วประเทศ แต่ PBOC ได้นำร่องทดลองใช้ในเมืองใหญ่ ๆ ของจีนเป็นที่เรียบร้อย ผ่านทางรูปแบบลอตเตอรี่ ซึ่งเงินหยวนดิจิทัลจะถูกส่งไปยังผู้อยู่อาศัย เพื่อให้นำเงินไปใช้จ่ายกับร้านค้าปลีก ซึ่งรวมถึง JD.com ที่เข้าร่วมเช่นกัน ด้วยกระแสที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์ในอนาคต จึงทำให้ JD.com ร่วมมือกับ PBOC ทดลองจ่ายเงินดิจิทัล ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินให้กับพนักงานบางรายในรูปแบบเงินหยวนดิจิทัล เมื่อเดือนมกราคม โดยการดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามความพยายามของรัฐบาลจีนที่ต้องการให้ประชาชนหันมาใช้การใช้จ่ายเงินในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น Li Bo รองผู้ว่าการ PBOC กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนนี้ ธนาคารเริ่มมองหาการขยายฐานผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการอนุญาตให้นักท่องเที่ยว นักกีฬาต่างชาติที่เข้าร่วมหารแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2022 สามารถใช้เงินหยวนดิจิทัลได้ ทั้งนี้ สกุลเงินหยวนดิจิทัลของจีน ไม่ใช่สกุลเงินเดียวกับบิตคอยน์ ซึ่งถูกสั่งห้ามจากธนาคารกลาง ที่มา: CNBC https://www.smartsme.co.th/content/244134