โทรศัพท์ 1358

“อธิบดีณัฐพล” ร่วมลงนามถวายพระพร กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร
“อธิบดีณัฐพล” ร่วมลงนามถวายพระพร กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร
กรุงเทพฯ 14 มกราคม 2564 เวลา 10.30 น. - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และลงนามถวายพระพร ขอทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ชามาตย์ นางวรวรรณ ชิตอรุณ และนายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม ณ ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง
14 ม.ค. 2021
“อธิบดีณัฐพล” พร้อมผู้บริหาร ก.อุตฯ รับมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ
“อธิบดีณัฐพล” พร้อมผู้บริหาร ก.อุตฯ รับมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ
กรุงเทพ ฯ 14 มกราคม 2564 - นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และ นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ รับมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ” ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบให้เพื่อเชิดชูเกียรติสำหรับผู้ที่ประกอบคุณงามความดี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมานะบากบั่นอดทนและเสียสละอย่างสูง จนบังเกิดผลดีต่อส่วนรวมในงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมี นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นผู้แทนในการมอบ ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
14 ม.ค. 2021
กระทรวงอุตฯ รับสมัครรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2564 ชูนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
กระทรวงอุตฯ รับสมัครรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2564 ชูนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
กระทรวงอุตสาหกรรมขอเชิญผู้ประกอบการ และ SMEs สมัครเข้ารับการคัดเลือกรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2564 (The Prime Minister’s Industry Award ) รางวัลอันทรงเกียรติสำหรับอุตสาหกรรมไทย ปีนี้เพิ่ม “เศรษฐกิจหมุนเวียน” และ “โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน” รวมเป็น 15 ประเภทรางวัล นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรมเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 เป็นต้นมา โดยมีนายกรัฐมนตรีให้เกียรติเป็นประธานในการมอบรางวัล เพื่อประกาศเกียรติคุณผู้ประกอบการที่มีความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่กิจการอุตสาหกรรมอื่นๆ ตลอดจนเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้ประกอบการในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนามาตรฐาน และการประกอบการในด้านต่างๆ อย่างมีศักยภาพ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการผลิตของภาคอุตสาหกรรม และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของประเทศโดยรวม “ในปีนี้พิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมาคือ กระทรวงอุตสาหกรรมได้เพิ่มรางวัลอีก 2 ประเภทรางวัล เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลด้าน BCG และส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการโลจิสติกส์ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่มุ่งเน้นให้ภาคอุตสาหกรรมใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า คำนึงถึงการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด มุ่งแก้ไขปัญหามลพิษ และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีความเจริญเติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนและสร้างความยั่งยืนให้กับระบบเศรษฐกิจของไทย ทั้งนี้ ในปี 2565 กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมยกระดับเป็นรางวัลด้าน BCG เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินงานทั้งระบบในองค์กร และอีกหนึ่งประเภทรางวัลที่เพิ่มมาในปีนี้คือ รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน เพื่อเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีสามารถสมัครเข้าร่วมประกวดกันได้มากขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการโลจิสติกส์ในองค์กร ทำให้ผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโลจิสติกส์ และประหยัดพลังงานด้วย” นายกอบชัยฯ กล่าว นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปีนี้ สมอ. ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 ซึ่งมีรางวัลอุตสาหกรรม รวมทั้งสิ้น 15 ประเภทรางวัล ดังนี้ 1. รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล 2. รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น จำนวน 9 ประเภทรางวัล ได้แก่ 2.1 ประเภทการเพิ่มผลผลิต 2.2 ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2.3 ประเภทการบริหารความปลอดภัย 2.4 ประเภทการบริหารงานคุณภาพ 2.5 ประเภทการจัดการพลังงาน 2.6 ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน 2.7 ประเภทอุตสาหกรรมศักยภาพ 2.8 ประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม 2.9 ประเภทเศรษฐกิจหมุนเวียน 3. รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น จำนวน 5 ประเภทรางวัล ได้แก่ 3.1 ประเภทการบริหารจัดการ 3.2 ประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ 3.3 ประเภทการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม 3.4 ประเภทบริหารธุรกิจสู่สากล 3.5 ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ทั้งนี้ เกณฑ์การพิจารณาจะเข้มข้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยจะมอบรางวัลให้กับผู้ประกอบการที่มีคะแนนสูงสุดเป็น 3 อันดับแรกของแต่ละประเภทรางวัลเท่านั้น สมอ. จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการสมัครเข้ารับการคัดเลือกรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยส่งใบสมัครได้ที่ กองส่งเสริมและพัฒนาด้านการมาตรฐาน สมอ. โทร. 0 2202 3517-8 หรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ หรือฝ่ายเลขานุการคณะทำงานทุกคณะ และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.industry.go.th/industry_award/ เลขาธิการ สมอ. กล่าว
14 ม.ค. 2021
ปลัด ก.อุตฯ รับมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ”
ปลัด ก.อุตฯ รับมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ”
วันนี้ (7 มกราคม 2564) นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รับมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ” ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบให้เพื่อเชิดชูเกียรติสำหรับผู้ที่ประกอบคุณงามความดี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมานะบากบั่นอดทนและเสียสละอย่างสูง จนบังเกิดผลดีต่อส่วนรวม ในงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมี นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นผู้แทนในการมอบ ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
07 ม.ค. 2021
“สุริยะ เข้มสถานประกอบการ 28 จังหวัด พื้นที่เสี่ยงสูงสุด ป้องกันเฝ้าระวังโควิด – 19 บุคลากร ก.อุตฯ เหลื่อมเวลาทำงาน ปฏิบัติงานที่บ้าน ร้อยละ 50 เริ่ม 5 ม.ค. นี้
“สุริยะ เข้มสถานประกอบการ 28 จังหวัด พื้นที่เสี่ยงสูงสุด ป้องกันเฝ้าระวังโควิด – 19 บุคลากร ก.อุตฯ เหลื่อมเวลาทำงาน ปฏิบัติงานที่บ้าน ร้อยละ 50 เริ่ม 5 ม.ค. นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่มีการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ออกเป็นวงกว้างกระจายในหลายเขตพื้นที่ และรัฐบาลมีความจำเป็นที่ต้องกำหนดและบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อเข้าแก้ไขและระงับยับยั้งสถานการณ์ดังกล่าวด้วยมาตรการทางกฎหมาย และการขอความร่วมมือทั้งผู้ประกอบการเอกชน และประชาชน อย่างเข้มข้น นั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนมาตรการที่รัฐบาลออกมาเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพสูงสุด กระทรวงอุตสาหกรรมได้ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างใกล้ชิด โดยขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม เช่น โรงงานอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ทั้งที่อยู่ในหรือนอกนิคมอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการวัตถุอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย ผู้ประกอบการตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องจักร ผู้ประกอบการตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รวมทั้งเหมืองแร่ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ใน 28 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร ชลบุรี ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี ระนอง ระยอง ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี สระแก้ว สระบุรี อ่างทอง เป็นต้น ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและการเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคดังกล่าวในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ และลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสดังกล่าว ไม่ให้ติดต่อไปยังบุคคลอื่นที่อยู่ในหรือนอกโรงงาน โดยในพื้น 28 จังหวัด มีสถานประกอบการ 49,391 โรงงาน จำนวนคนงานกว่า 3,020,000 คน โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการในพื้นที่เสี่ยงสูงสุดพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ 1. ปรับเวลาการปฏิบัติงานของคนงาน เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 2. คัดกรองพนักงานทุกคน (ตรวจวัดอุณหภูมิ / ตรวจสอบประวัติการเดินทาง) 3. สุ่มตรวจหาเชื้อโควิดในพนักงาน 4. เตรียมสถานที่กักตัวผู้ที่ติดเชื้อ 5. ประชาสัมพันธ์แนวทางป้องกันโควิด DMHTT (Distancing / Mask Wearing / Hand Washing / Testing / Thai Cha Na) 6. ใช้แอปพลิเคชัน หมอชนะในการ Monitor ความเสี่ยงจากการติดเชื้อ และให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานติดตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือติดการแถลงข่าวของรัฐบาลเพื่อปฏิบัติตามอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ในส่วนของบุคลากรข้าราชการของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงาน ดังนี้ 1. ปรับเวลาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยการเหลื่อมเวลาเข้าปฏิบัติการ เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 2. Work From Home ร้อยละ 50 ของบุคลากร โดยพิจารณาให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่แต่ละส่วนงานขยับเวลาการทำงาน เพื่อลดจำนวนผู้ปฏิบัติงานและปริมาณการเดินทาง ลดความแออัดในการใช้สถานที่ด้วยการปฏิบัติงานที่บ้าน เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้กับ การทำงาน อาทิ การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ วิดีโอคอล แอปพลิเคชันไลน์ หรืออีเมล์มาเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน เพื่อไม่ให้มีข้อติดขัด หรือเกิดปัญหากับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน ทั้งนี้ แม้ว่าจะปรับมาตรการในการทำงาน แต่ภารกิจในการขับเคลื่อนงานของกระทรวงฯ ก็ยังจะสามารถรักษาประสิทธิภาพการทำงานให้มีความต่อเนื่อง และมุ่งหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด – 19 อย่างได้ผล 3. คัดกรองเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานในกระทรวงอุตสาหกรรม (ตรวจวัดอุณหภูมิ) 4. ประชาสัมพันธ์แนวทางป้องกันโควิด DMHTT (Distancing / Mask Wearing / Hand Washing / Testing / Thai Cha Na) 5. รณรงค์ให้ใช้ Application หมอชนะในการ Monitor ความเสี่ยงจากการติดเชื้อ "จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 ของไทย ทำให้เกิดผลกระทบต่อทุกภาคส่วน กระทรวงอุตสาหกรรมตระหนักถึงความจำเป็นต่อป้องกันและการเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 จึงมีการออกประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม และหนังสือขอความร่วมมือสถานประกอบการในพื้นที่เสี่ยงสูงสุด และบุคลากรของกระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามแนวป้องกันและควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมเน้นย้ำการปรับมาตรการในการทำงานจะไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้" นายสุริยะ กล่าว ที่มา: สำนักบริหารกลาง...
05 ม.ค. 2021
เลื่อนการสอบสัมภาษณ์พนักงานราชการ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
เลื่อนการสอบสัมภาษณ์พนักงานราชการ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม 2564 และตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 1/2564 ลงวันที่ 3 มกราคม 2564 ดังนั้น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนการประเมินความรู้ ความสมารถ ทักษะ และสมรรถนะ ครั้งที่ 2 โดยวิธีการสัมภาษณ์ ตำแหน่งพนักงานราชการ ออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พ้นไปหรือจนกว่าจะมีข้อสั่งการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างอื่น โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะกำหนดวัน เวลา และสถานที่ประเมินความรู้ฯ และจะแจ้งให้ผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินทราบอีกครั้งหนึ่ง ประกาศกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เรื่อง เลื่อนกำหนดวัน เวลา และสถานที่ประเมินความรู้ ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ครั้งที่ 2 (พนักงานราชการ)
05 ม.ค. 2021
สุริยะ ยกเครื่องบริการ ก.อุตฯ เร่งพัฒนา iSingleForm ระบบแจ้งข้อมูลโรงงานในแบบฟอร์มเดียวผ่านระบบออนไลน์ ปฏิรูปการทำงานสู่ยุคดิจิทัล
สุริยะ ยกเครื่องบริการ ก.อุตฯ เร่งพัฒนา iSingleForm ระบบแจ้งข้อมูลโรงงานในแบบฟอร์มเดียวผ่านระบบออนไลน์ ปฏิรูปการทำงานสู่ยุคดิจิทัล
อุตสาหกรรมเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม iSingleForm เชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภายใน ปฏิรูปการให้บริการหน่วยงานในสังกัดแบบดิจิทัล พร้อมให้บริการออนไลน์แบบครบวงจร สอดรับการทำงานแบบนิว นอร์มอล ช่วยวิเคราะห์สถานะโรงงานและแจ้งสิทธิประโยชน์ พร้อมนำข้อมูลไปใช้ยกระดับภาคอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ สร้างปัจจัยแวดล้อมสำคัญในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้เร่งขยายการบริการให้ครอบคลุมส่วนงานด้านข้อมูลการประกอบกิจการโรงงาน โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) พัฒนาจัดทำและเปิดใช้งานแพลตฟอร์ม iSingleform ขึ้น เพื่อเป็นช่องทางการบริการแจ้งข้อมูลของผู้ประกอบการให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ภายในกระทรวงให้เหลือเพียงแบบฟอร์มเดียวผ่านระบบออนไลน์ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมีเป้าหมายในการเร่งยกระดับการบริการของกระทรวงเข้าสู่ระบบออนไลน์ให้ครอบคลุมในทุกมิติเพื่อขับเคลื่อนการเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) ขณะเดียวกันปัจจุบันกระทรวงฯ ได้เปิดให้บริการผ่านระบบออนไลน์ในหลายบริการ อาทิ บริการด้านใบอนุญาต บริการยื่นขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และบริการใบแจ้งการชำระค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งจะเป็นการลดภาระผู้ประกอบการในการเดินทางมาติดต่อหน่วยงานราชการ “การยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภาครัฐจำเป็นจะต้องพัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้พร้อม อาทิ โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารและคมนาคม การปรับกฎระเบียบให้ทันสมัย รวมทั้งการบริการของภาครัฐที่ต้องยกระดับให้สอดคล้องกับการทำงานในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งมีความคุ้นชินในการทำธุรกรรมออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ราชการเพื่อขอรับบริการ สามารถแจ้งข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้ตั้งเป้าหมายให้ผู้ประกอบการโรงงานแจ้งข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม iSingleForm อย่างทั่วถึงและครอบคลุมผู้ประกอบการในทุกขนาดและทุกพื้นที่มากขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้างกรอบตัวอย่าง (Sampling Frame) ที่ทันสมัยและมีมาตรฐานร่วมกัน ช่วยลดการสำรวจข้อมูลที่ซ้ำซ้อนภายในกระทรวงอุตสาหกรรมและสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมในด้านต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” นายสุริยะ กล่าว นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวต่อว่า สศอ. ได้เร่งพัฒนาระบบ iSingleForm และเปิดใช้งานให้ผู้ประกอบการได้แจ้งข้อมูลตามแบบฟอร์มเดียวซึ่งได้รวบรวมข้อคำถามจากหน่วยงานต่าง ๆ ภายในกระทรวงฯ ไว้ในแบบฟอร์มเดียวเพื่อลดภาระการแจ้งข้อมูล ไม่ให้เกิดความความซ้ำซ้อน โดยข้อมูลที่ผู้ประกอบการได้แจ้งมาตามแพลตฟอร์ม iSingleForm จะถูกนำมาวิเคราะห์ข้อมูลและจัดทำเป็นผลการประเมินสถานภาพของสถานประกอบการเป็นประจำทุกเดือนตามข้อมูลที่ได้แจ้งเข้ามา ซึ่งจะได้รับผลการวิเคราะห์สถานะของกิจการตนเองในแง่มุมต่าง ๆ อาทิ ประสิทธิภาพการผลิต ความสามารถในการจำหน่าย ความสามารถในการบริหารต้นทุน โดยเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด และในรายสาขาอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการนำผลการวิเคราะห์ไปใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่แจ้งข้อมูลอย่างต่อเนื่องจะได้รับแจ้งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) กับทาง สศอ. ซึ่งในปัจจุบันมี 2 ธนาคาร คือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ได้รับแจ้งสิทธิการเข้ารับคำปรึกษาเพื่อการพัฒนาสถานประกอบการ และการเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพสถานประกอบการโรงงาน
04 ม.ค. 2021
ศภ.7 กสอ. บูรณาการเครือข่ายพื้นที่ ผลักดัน CIV ปรุงท้องถิ่นสู่สร้างสรรค์
ศภ.7 กสอ. บูรณาการเครือข่ายพื้นที่ ผลักดัน CIV ปรุงท้องถิ่นสู่สร้างสรรค์
ยโสธร 22 ธันวาคม 2563 ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มอบหมายให้ นางเปลี่ยน จำปาหอม เจ้าพนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมอาวุโส พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์กิจกรรม/โครงการ ประชุมหารือกับผู้นำชุมชน ในพื้นที่จังหวัดยโสธร บ้านโคกก่อง และบ้านห้องแซง ในโครงการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน (Creative Industry Village :CIV) เพื่อพัฒนาและยกระดับชุมชน เสริมศักยภาพอุตสาหกรรมอย่างสร้างสรรค์ ปรุงอัตลักษณ์การท่องเที่ยวสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อโยงการบูรณการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน.เจ้าหน้าที่ร่วมนายธนเดช ศฤงคารนันต์, นายประหยัด ดาราย้อย, นายจิตติ โสบุญ
22 ธ.ค. 2020
ศภ.7 กสอ. ปั้นแนวคิด Textile designer รุ่นใหม่ เสริมพื้นที่ด้านแฟชั่น
ศภ.7 กสอ. ปั้นแนวคิด Textile designer รุ่นใหม่ เสริมพื้นที่ด้านแฟชั่น
อุบลราชธานี วันที่ 22 ธันวาคม 2563 ดร.รุ่งโรจน์ อัฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 มอบหมายให้ นายสุเทพ ทุตา ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการส่งเสริมอุตสาหกรรมชุมชน เป็นประธานเปิดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “สร้างนักออกแบบสิ่งทอรุ่นใหม่” Young : Textile designer ภายใต้โครงการยกระดับผ้าทอมืออัตลักษณ์อีสานสู่สากล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 ธันวาคม 2563 ณ โรงแรมเดอะรีเจ้นท์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวรายงานโดย นายนฤพนธ์ ทาวะรัตน์ ตำแหน่ง นายช่างเทคนิคปฎิบัติงาน.กิจกรรมนี้เป็นการเติมเต็มองค์ความรู้การเสริมศักยภาพ การออกแบบงานด้านแฟชั่น ด้านผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือ โดยมี อาจารย์ภิรมย์ แก้วมณี ที่ปรึกษาศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Thai-idc) พร้อมคณะเป็นวิทยากร แลกเปลี่ยนมุมมอง ประสบการณ์ด้านการออกแบบให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทั้ง 23 ท่าน ได้รับฟังและทำกิจกรรม workshop ไปพร้อมๆ กัน.การจัดกิจกรรมมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) อย่างเคร่งครัด.เจ้าหน้าที่ร่วมนางสาวอภิชญา มาศรักษา, นายมิตร แสงกล้า
22 ธ.ค. 2020
รายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเป็นพนักงานจ้างเหมาบริการ งานสนับสนุนงานบริการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม
รายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเป็นพนักงานจ้างเหมาบริการ งานสนับสนุนงานบริการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 ประกาศ รายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก เพื่อจ้างเหมาบริการปฏิบัติงาน การปฏิรูปอุตสาหกรรมศักยภาพสู่อุตสาหกรรมเพิ่มมูลค่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จำนวน 5 ราย ลำดับที่ 1. เลขประจำตัวสอบ 4 นางสาวเกษรินทร์ ศรีคำ ลำกับที่ 2 เลขประจำตัวสอบ 6 นางสาวรัตนกาญจน์ แพทย์เจริญ ลำดับที่ 3 เลขประจำตัวสอบ 5 นางสาวพุธิตา สิงห์ทอง ลำดับที่ 4 เลขประจำตัวสอบ 3 นางสาวอภิญญา มูลสุวรรณ ลำดับที่ 5 เลขประจำตัวสอบ 2 นางสาวพรรณิภา ตันตารัตน์ ให้ผู้มีรายชื่อลำดับที่ 1 มารายงานตัวเพื่อรับการจัดจ้างเป็นพนักงานจ้างเหมาบริการฯ และเริ่มปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 ในวันที่ 15 ธันวาคม 2563 เวลา 08.30 น. รายละเอียดตามประกาศที่แนบ ประกาศเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563
09 ธ.ค. 2020