Category
AKG จับมือ ProPlugin เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงเจ้าเดียวในไทย
HARMAN Professional Solutions บริษัทในเครือ Samsung Electronic และเป็นเจ้าของแบรนด์ดังด้าน Audio ที่คนไทยรู้จักกันดี เช่น JBL, Harman Kardon, AKG และอื่นๆ อีกมากมาย ล่าสุด HARMAN Professional Solutions ได้แต่งตั้งให้ ProPlugin เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ AKG Professional ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ Amar Subash รองประธาน Harman Professional Solutions และผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้านระบบเสียงระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะหูฟังและไมโครโฟน และด้วยความน่าเชื่อถือ รวมถึงความเป็นมืออาชีพของ ProPlugin ซึ่งเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์ เครื่องเสียง บันทึกเสียง ดีเจ หูฟัง และ เครื่องดนตรี ที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ รวมไปถึงการเป็น Distributor แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Focusrite, Mackie, KRK, Native Instruments, Tascam รวมไปถึง Universal Audio และ แบรนด์อื่นๆ อีกมากมายกว่า 38 แบรนด์มาอย่างยาวนาน จึงเชื่อมั่นจนเกิดความร่วมมือระหว่างกัน ด้านนายไตรเทพ ศรีกาลรา CEO ProPlugin เปิดเผยว่า HARMAN Professional Solutions เป็นที่ยอมรับด้านเทคโนโลยีที่เหนือกว่าและคุณภาพระดับโลก โดยทาง ProPlugin เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยเป็นอย่างดี และรู้สึกตื่นเต้นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ AKG Professional ให้กับลูกค้าเพื่อยกระดับประสบการณ์ด้าน Audio ของพวกเขา ทั้งนี้ แบรนด์ AKG เป็นแบรนด์ระดับตำนานจากประเทศออสเตรีย มีผลิตภัณฑ์ด้านเสียงและเป็นที่รู้จักในแวดวงคนดนตรีมาอย่างยาวนาน ล่าสุด ได้ขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น ด้วยการส่งรุ่น AKG LYRA USB Microphone เอาใจเหล่าครีเอเตอร์และกลุ่มผู้บริหาร ด้วยรูปทรงที่สวยงาม ใช้งานได้สะดวก ความละเอียดสูง โดยสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย ทั้งบันทึกเสียง จัด Podcast ประชุมทีมทุกที่ได้ง่ายๆ ที่มา : https://www.smartsme.co.th/content/244546
08 พ.ค. 2022
Facebook ขยายเวลาให้พนักงานทำงานแบบ Work Form Home ยาวถึงครึ่งปี 2022
Facebook เตรียมที่จะให้พนักงานทำงานจากระยะไกลต่อไป อย่างน้อยถึงครึ่งปีหน้า หลังบริษัทยังไม่ค่อยไว้วางใจสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Facebook กล่าวกับพนักงานว่าตนมีแผนจะให้ทุกคนทำงานแบบ Work Form Home ไปอย่างน้อยถึงครึ่งปี 2022 การทำงานนอกสถานที่ทำให้ตนมีพื้นที่สำหรับการคิดมากขึ้น และช่วยให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น มีความสุขที่จะสร้างสรรค์ผลงานออกมา “พนักงานครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 60,000 จะทำงานไปถึงครึ่งปีหน้า” Mark Zuckerberg กล่าว อย่างไรก็ตาม Facebook อนุญาตให้พนักงานทุกระดับสามารถทำงานจากระยะไกลได้ เช่นเดียวกับพนักงานที่ต้องการกลับมาทำงานที่ออฟฟิศก็สามารถทำได้ โดยขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ Facebook ยังเปิดโอกาสให้กับพนักงานที่มีศักยภาพต้องการทำงานระยะไกลข้ามพรมแดนสามารถย้ายจากสหรัฐฯ ไปยังแคนาดา หรือทุกที่ในยุโรป หรือตะวันออกกลาง ไปยังสหราชอาณาจักร ซึ่ง Zuckerberg คาดการณ์ว่าพนักงาน Facebook อย่างน้อยครึ่งหนึ่งจะทำงานระยะไกลอย่างสมบูรณ์แบบในอีก 10 ปีข้างหน้า ขณะที่ธุรกิจเทคโนโลยีอื่น ๆ พบว่ามีหลายบริษัทวางแผนรูปแบบการทำงานให้พนักงานได้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Amazon ที่แจ้งพนักงานให้เข้ามาออฟฟิศ 3 วัน/สัปดาห์, Twitter ให้พนักงานเลือกที่จะทำงานระยะไกล หากบทบาทของพวกเขาเอื้ออำนวย, Google เสนอทางเลือกให้พนักงานระหว่างทำงานระยะไกลแบบถาวร, กลับมาทำงานที่ออฟฟิศ หรือย้ายที่ตั้งสำนักงานในเดือนกันยายนปีนี้, Apple และ Uber ปรับนโยบายให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศอย่างน้อย 3 วัน/สัปดาห์ เริ่มเดือนกันยายน ที่มา: https://edition.cnn.com/2021/06/09/tech/zuckerberg-facebook-remote-work-memo/index.html https://www.bbc.com/news/technology-57425636 https://www.smartsme.co.th/content/244380
07 พ.ค. 2022
จีนทำสำเร็จสร้างเรือเลี้ยงปลาอัจฉริยะลำแรกของโลก คาดให้ผลผลิตปลาคุณภาพดี 3,700 ตันต่อปี
เรือเพาะเลี้ยงปลาอัจฉริยะขนาด 100,000 ตัน ลำแรกของจีนถูกสร้างเสร็จหลังใช้เวลาเกือบ 400 วัน และประกาศเปิดตัวในเมืองทางตะวันออกของชิงเต่า ตามรายงานของ China Science Daily ระบุว่าเรือดังกล่าวถูกเรียกว่า Conson No 1 มีขนาดความยาว 249.9 เมตร และกว้าง 45 เมตร โดยถูกออกแบบมาเพื่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะ สามารถระบายน้ำได้ 130,000 ตัน เลี้ยงปลาได้ 15 กระชัง พร้อมทั้งมีพื้นที่เลี้ยงปลาเชิงพาณิชย์ระดับไฮเอนด์ ปริมาณ 80,000 ลูกบาศก์เมตร และคาดการณ์ว่าจะให้ผลผลิต 3,700 ตันต่อปี นอกจากนี้ ความหนาแน่นของการผสมพันธุ์ปลาในถังสูงกว่าการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบดั้งเดิมถึง 4-6 เท่า และวงจรการแพร่พันธุ์สั้นลงมากกว่า 1 ใน 4 การก่อสร้างเรือเริ่มต้นในเดือนธันวาคม 2020 โดย Qingdao Conson Development Group ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนในโครงการก่อสร้าง และได้รับการพัฒนาร่วมกันกับบริษัทต่อเรือรายใหญ่ของจีน และสถาบันวิจัย ด้าน Chen Zhixin หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยเครื่องจักรและเครื่องมือประมงภายใต้สถาบันวิทยาศาสตร์การประมงของจีน กล่าวว่าการว่าจ้างเรือจะช่วยผลักดันพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจากทะเลน้ำลึก โดยใช้แหล่งน้ำทะเลคุณภาพสูงในการเพาะพันธุ์ “เราสามารถมีแหล่งโปรตีนจากทะเลที่ให้คุณค่าทางโภชนาการ และสร้างเป็นอาหารเสริมที่สำคัญ” Chen Zhixin d]jk; ที่มา: chinadaily, Xinhua, www.smartsme.co.th/content/247077
06 พ.ค. 2022
ผู้นำอินโดฯ พูดคุยกับอีลอน มัสก์ เปิดทางเข้ามาลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า-ทรัพยากรธรรมชาติ
กลายเป็นภาพที่ถูกพูดถึงผ่านสื่อสังคมออนไลน์เมื่อ โจโก วีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้นั่งพูดคุยกับ อีลอน มัสก์ นักธุรกิจชื่อดังเจ้าของ Tesla จนเกิดการตีความตามมาว่าจะเกิดดีลสำคัญขึ้นในอนาคตหรือไม่ การพบกันของทั้งสองคนเกิดขึ้นหลังการอภิปรายระดับงานเกี่ยวกับการลงทุนที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมนิกเกิลของอินโดนีเซีย และการจัดหาแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า สอดคล้องกับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวแทนจาก Tesla ในอินโดนีเซีย ได้มีการพูดคุยถึงศักยภาพการลงทุนเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่เรื่องนี้ยังไม่มีคำเสนอแนะออกมาจากฝั่ง Tesla แต่อย่างใด ในช่วงที่ผ่านมา อินโดนีเซียพยายามเจรจากับ Tesla เกี่ยวกับการลงทุนแบตเตอรี่ และศักยภาพของบริษัท SpaceX อีกหนึ่งธุรกิจของมัสก์ ด้านโจโก วีโดโด เดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนกับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยการพบกับมัสก์เกิดขึ้นที่ไซต์เปิดตัว SpaceX ใน Boca Chica,Texas และได้มีคำเชิญมหาเศรษฐีรายนี้เดินทางมาอินโดนีเซียในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งวีโดโดจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ G20 ที่บาหลี อินโดนีเซียยังมีที่ว่างให้กับมัสก์กับการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในหลาย ๆ ด้าน เพราะอินโดนีเซียมีศักยภาพมากมาย ทั้งในเรื่องของนิกเกลสำรองที่ใหญ่สุดของโลก และวีโดโดมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุตสาหกรรม EV ที่ใช้นิกเกิลผลิตส่วนประกอบแบตเตอรี่ และประกอบรถยนต์ไฟฟ้า โดยที่ผ่านมาวีโดโดเรียกร้องให้มัสก์พิจารณาเข้ามาลงทุนในอินโดนีเซีย ข้อเสนอในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานำมาสู่โมเมนตัมใหม่ที่ทำให้วีโดโดผลักดันพัฒนาอุตสาหกรรม EV ในช่วงเวลาที่ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกกำลังดิ้นรนเพื่อจัดหาวัสดุผลิตแบตเตอรี่ และการพึ่งพาจากจีน โดย LG Energy ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV อันดับ 2 ของโลก ประกาศแผนลงทุน 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอินโดนีเซีย เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งของข้อตกลงรวมทุกอย่างตั้งแต่การกลั่นนิกเกิลไปจนถึงการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ในอินโดนีเซีย ที่มา: FB Joko Widodo, businesstoday, https://www.smartsme.co.th/content/247004
05 พ.ค. 2022
พนักงาน Apple เลือกลาออกแทนที่จะกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ เพราะมองว่าทำให้สูญเสียความปลอดภัย
เป็นที่ทราบกันดีว่าการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายบริษัทเลือกที่จะ Work Form Home เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ และสร้างความปลอดภัยให้กับพนักงาน อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ที่ทุกอย่างต้องเดินต่อไปทำให้ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ เริ่มให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ เช่นเดียวกับ Apple บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่เริ่มให้พนักงานกลับมาทำงาน 3 วันต่อสัปดาห์ แต่การกลับมาครั้งนี้กลับพบเรื่องราวที่ไม่เหมือนเดิมเมื่อพบการลาออกของพนักงานเพิ่มมากขึ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นจากอะไรเรามาหาคำตอบกัน กลุ่มพนักงานระดับสูงของ Apple เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงบริษัทเรื่องประกาศลาออกในเดือนเมษายน หลังรู้ว่าพวกเขาต้องกลับมาทำงานที่ออฟฟิศอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ โดยหนึ่งในคนที่ยื่นใบลาออก คือ Ian Goodfellow ผู้อำนวยการด้านการเรียนรู้ ที่ตัดสินใจบอกลา Apple เหตุผลที่ทำให้พวกเขาเหล่านี้ขอลาออก เพราะไม่เห็นด้วยที่ต้องถูกบังคับให้กลับมาทำงานที่ออฟฟิศ เนื่องจากมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัย, สุขภาพกาย, สุขภาพจิต และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมองว่าการทำงานจากออฟฟิศจะเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว หลังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ทุกอย่างมีความเชื่อมโยงกันไปหมด Goodfellow เขียนบันทึกถึงเจ้าหน้าที่ว่า ตนเชื่ออย่างยิ่งว่าความยืดหยุ่นที่มากขึ้นจะเป็นนโยบายที่ดีสำหรับทีม การที่ทุกคนได้ทำงานจากระยะไกลมันเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า ซึ่งบันทึกฉบับนี้เป็นข้อเรียกร้องของ Goodfellow ที่ได้รับลายเซ็นยืนยันจากพนักงานมากกว่า 1,000 คน แต่ไม่ได้มีการระบุว่าเป็นพนักงานปัจจุบัน หรืออดีตของบริษัท อาจจะกล่าวได้ว่าการทำงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เพราะราคาที่พักอาศัยในซิลิคอนวัลเลย์พุ่งสูงขึ้น, ผลกระทบจากเงินเฟ้อที่ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น และการขาดการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และนโยบายความเป็นส่วนตัวต่อการเติบโตขึ้นในรัฐฯ ที่มีศูนย์กลางเทคโนโลยีตั้งอยู่ รวมถึงปัญหาในเรื่องของแรงงานที่หมดไฟกับการทำงาน ที่มา: https://futurism.com/the-byte/apple-workers-quit-dont-return-office-pandemic https://www.smartsme.co.th/content/247002
04 พ.ค. 2022
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส! PriceLOCQ สตาร์ทอัพฟิลิปปินส์เปิดขายน้ำมันล่วงหน้า ช่วยลูกค้าได้น้ำมันราคาถูก
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าราคาพลังงาน โดยเฉพาะ “น้ำมัน” ทะยานพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ยานพาหนะที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ เงินในกระเป๋าสตางค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันจะดีกว่านี้หรือไม่ หากสามารถจัดการซื้อน้ำมันล่วงหน้าได้ในราคาถูก แบบไม่ต้องมานั่งกังวลว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น แล้วต้องซื้อในราคานั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อสตาร์ทอัพชื่อว่า PriceLOCQ ที่คิดค้นไอเดียให้ลูกค้าซื้อน้ำมันล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน สำหรับ PriceLOCQ เป็นแอปพลิเคชันถูกพัฒนาโดย Mark Yu ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารของ Seaoil ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันในฟิลิปปินส์ โดยแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อเชื้อพลิงได้เมื่อพวกเขาต้องการ แม้ช่วงแรกของการทำธุรกิจจะไม่ได้จะไม่ได้ให้มีการสั่งซื้อน้ำมันล่วงหน้าได้ก็ตาม แต่ YU ได้สร้างแนวคิดเกี่ยวกับโทเค็นดิจิทัลโดยอิงจากน้ำมัน เนื่องจากบล็อกเชนกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในฟิลิปปินส์ แนวคิดนี้จึงทำให้โทเค็นนำมันถูกพัฒนาเพื่อมอบสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง และธุรกิจต้องการส่งเสริมให้ผู้คนมีส่วนร่วมในตลาดพลังงาน มาวันนี้ PriceLOCQ มีส่วนสำคัญในชีวิตผู้คนฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครน เช่นเดียวกับอุปทานด้านเชื้อเพลิงที่ต่ำสุดในตลาดโลก ทำให้ PriceLOCQ กลายเป็นทางเลือกของคนฟิลิปปินส์ Yu อธิบายว่า PriceLOCQ จะใช้แนวคิดการป้องกัยความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงให้กับผู้บริโภค โดยสามารถซื้อเชื้อเพลิงล่วงหน้าได้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถลดความเสี่ยงจากความผันผวน และต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยประหยัดน้ำมัน อย่างไรก็ตาม PriceLOCQ อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อน้ำมันผ่านแอปฯ ล่วงหน้าสูงสุดไม่เกิน 600 ลิตร ทั้งเบนซิน และดีเซล ผ่านสถานีบริการน้ำมัน Seaoil ผ่าน 300 สาขาทั่วประเทศฟิลิปปินส์ ที่มา: https://www.smartsme.co.th/content/246995
03 พ.ค. 2022
Warren Buffett : ผมไม่เคยเชื่อบิตคอยน์ ต่อให้เอาเหรียญทั้งโลกมากองขายราคา 25 ดอลลาร์ ก็ไม่ซื้อ
ดูเหมือนว่าสถานการณ์การลงทุนสกุลเงินดิจิทัลคริปโตฯ เกิดความผันผวนทางด้านราคาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหรียญที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างบิตคอยน์ที่เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ราคาร่วงลงมาอยู่ที่ 27,155.93 ดอลลาร์/BTC ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 2 ปี และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาบิตคอยน์จะพุ่งกลับมาเหมือนปกติ หรือจะร่วงลงไปอีก แม้ที่ผ่านมา “บิตคอยน์” จะเป็นการลงทุนแบบใหม่ที่ถูกโปรโมทจนดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้ามาลงทุน พร้อมทั้งถูกคาดหวังว่าจะเป็นการลงทุนแห่งอนาคตที่เข้ามาแทนที่การลงทุนแบบเดิม อย่างไรก็ตาม เมื่อเราย้อนดูคำพูดของ “พ่อมดการเงิน” Warren Buffett จะพบว่าเจ้าตัวไม่เคยเชื่อมั่นในบิตคอยน์เลย เพราะมองว่าไม่สามารถสร้างรายได้ได้ และไม่มีความคิดที่จะลงทุน ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ Warren Buffett กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทในวันที่ 30 เมษายน 2022 ซึ่ง ณ ขณะนั้น คริปโตฯ กำลังขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบิตคอยน์ แต่ Buffett มองว่าบิตคอยน์ไม่ได้มีค่าอะไรเลย เพราะไม่สามารถสร้างผลผลิต เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีประสิทธิผล จับต้องไม่ได้ “หากนำบิตคอยน์ทั้งหมดของโลกมากองอยู่ตรงหน้า แล้วเสนอให้ในราคา 25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ผมก็ไม่คิดจะซื้อ แม้ต่อจากนี้อีก 5-10 ปี ราคาบิตคอยน์จะขึ้นหรือลง ผมค่อนข้างแน่ใจว่าจะไม่ได้ผลผลิตอะไรเลย” Buffett กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนมองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ และหวังว่าในอนาคตจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อถือครองในระยะเวลายาวนาน แต่การลงทุนคริปโตฯ มีอะไรซับซ้อนมากกว่านั้น ทั้งนี้ วลีเด็ดของ Buffett ที่มีต่อบิตคอยน์ คือ “บิตคอยน์เป็นเหมือนยาที่มีฤทธิ์แรงเป็นสองเท่า” ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นมุมมองเป็นอย่างดีเกี่ยวกับบิตคอยน์ ที่มา: businessinsider, cnbc, https://www.smartsme.co.th/content/246993
02 พ.ค. 2022
MG ปิดการรับจองรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น NEW MG EP PLUS
MG ปิดรับจองรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น NEW MG EP PLUS แบบ 100% หลังโควิด-19 สร้างผลกระทบต่อการผลิต และการจัดส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำหนังสือชี้แจง ขอขอบคุณลูกค้าที่มั่นใจ และได้ทำการจองรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยกระแสตอบรับที่มีมาอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกจากนโยบายภาครัฐที่ให้การสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อการผลิต และการจัดส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ไม่สามารถรองรับกับปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นทางบริษัทฯ ได้พิจารณาถึงกำลังการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีอย่างจำกัด จึงมีความจำเป็นต้องขอหยุดรับการจองรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับรุ่น NEW MG EP PLUS โดยจะขอหยุดรับจองตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 เวลา 23.59 น. บริษัทฯ ขอขอบพระคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจ และให้การสนับสนุนบริษัทฯ และรถยนต์เอ็มจีเป็นอย่างดีมาโดยตลอด หากมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสถัดไป ที่มา : https://www.smartsme.co.th/content/246989
01 พ.ค. 2022
SMEs ไทยมีแนวโน้มการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตาม
บีเอสเอชี้จุดอ่อนของ SMEs ไทยขาดทักษะการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ เสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในการรักษาความลับทางการค้าและข้อมูลสำคัญของธุรกิจ พันธมิตรซอฟต์แวร์ (บีเอสเอ) องค์กรที่รณรงค์ส่งเสริมการใช้งานซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เผยว่า จากปี 2561 บีเอสเอยังคงสำรวจการใช้งานซอฟต์แวร์ขององค์กรอย่างต่อเนื่อง พบกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยยังมีการใช้งานซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ และใช้งานซอฟต์แวร์ไม่ถูกต้องตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ในขณะเดียวกันพบแนวโน้มการใช้งานซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเพิ่มสูงขึ้นในบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SMEs นอกจากนั้นยังพบว่าองค์กรธุรกิจที่ใช้งานซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ หรือใช้ไม่ถูกต้องตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ส่วนใหญ่ยังไม่มีการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ (Software Asset Management : SAM) หรือมีการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ที่ไม่ดีพอเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล และขาดการบูรณาการเข้ากับกลยุทธ์ด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security) ทำให้องค์กรธุรกิจเหล่านี้มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ อาจทำให้ความลับทางการค้าและข้อมูลสำคัญรั่วไหล คู่ค้าหรือนักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจด้วย และอาจเลือกลงทุนกับองค์กรธุรกิจที่ใช้งานซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องในประเทศอื่นในอาเซียน บีเอสเอเห็นว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดที่จะทำให้อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยลดลงได้อย่างรวดเร็ว คือความร่วมมือจากผู้บริหารองค์กรในการกำกับดูแลการใช้งานซอฟต์แวร์ให้เป็นอย่างถูกต้อง การเพิ่มทักษะของเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศในเรื่องการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ในระดับสากล รวมถึงการนำเรื่องการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การบริหารองค์กร ที่มา : https://www.bsa.org/, https://www.smartsme.co.th/content/232638
30 เม.ย. 2022
อาชญากรไซเบอร์ใช้เรื่องไวรัสเมืองอู่ฮั่นทำการแพร่กระจายมัลแวร์
ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่เชื้อไวรัสจากเมืองอู่ฮั่นของประเทศจีนนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศว่าไวรัสโคโรนาเป็นภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพระดับโลก หลายประเทศกำลังจำกัด การเดินทางของผู้คนจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ยิ่งเรากังวลเรื่องนี้มากเท่าไร อาชญากรไซเบอร์ก็รู้และคิดหาทางเล่นงานเราจากความกังวลในเรื่องนี้ แน่นอนพวกเขาเหล่านั้นต้องการแพร่กระจายมัลแวร์เพื่อหวังผลในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งจะเป็นการส่งไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับ coronavirus ในรูปแบบของ PDF, MP4 และ DOC ที่มักจะบอกว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวข้องกับวิธีการป้องกันตัวจากไวรัส และข้อมูลล่าสุดของการแพร่กระจาย เมื่อผู้ได้รับทำการเปิดไฟล์เหล่านี้ก็จะเป็นการทำให้มัลแวร์แพร่กระจายเข้าไปในเครืองคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายของบริษัทได้ มีการคาดการณ์ว่าจำนวนไฟล์ที่เป็นอันตรายจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ ควรทำการแจ้งเตือนพนักงานของพวกเขาให้ระวังอีเมลหรือลิงก์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ coronavirus และควรแนะนำให้ทำการหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการจะปลอดภัยกว่า ที่มา : https://www.natlawreview.com/article/cyber-criminals-using-coronavirus-concern-to-assist-intrusions https://www.smartsme.co.th/content/232684
29 เม.ย. 2022