โทรศัพท์ 1358
Advanced Search

Category
กสอ. กางแผนแอคชั่นดัน SMEs ครึ่งหลังปี 60 รุกเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น
กสอ. กางแผนแอคชั่นดัน SMEs ครึ่งหลังปี 60 รุกเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เผยยุทธศาสตร์การส่งเสริม SMEs ในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 และปีงบประมาณ 2561 โดย กสอ. ได้กำหนดแนวทางและวางเป้าหมายการส่งเสริมผู้ประกอบการด้วยกลยุทธ์พัฒนาSMEs 4.0 ด้วยมาตรการใหญ่ 3 ด้าน คือ 1. มาตรการยกระดับศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือ SMEs ในระดับท้องถิ่นให้มีความครอบคลุมในระบบบริการด้านที่ปรึกษาธุรกิจ ระบบเทคโนโลยี และเครื่องมือส่งเสริมที่มีความทันสมัย 2. มาตรการการผลักดัน SMEs ที่มีศักยภาพตามแต่ละพื้นที่ด้วยแนวทางประชารัฐ และ 3. มาตรการการเชื่อมโยง SMEs ไทยสู่ระดับสากล ทั้งประเทศในระดับคู่ค้าร่วมทุน ลงทุน ประเทศร่วมพัฒนา อาทิญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ และฮ่องกง โดยจะอาศัยแนวทาง การขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรม S-Curve การเชื่อมโยงระบบการผลิตไร้แรงงานมนุษย์ การเชื่อมโยงเส้นทางสายไหม และการจัดตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี เป็นต้น ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ทางด้านการดำเนินธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงได้ปรับแนวทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2560 ต่อเนื่องถึงปีงบประมาณ 2561 ซึ่งทางกรมฯ ได้กำหนดนโยบายและวางเป้าหมาการดำเนินงานที่จะเดินหน้าผลักดันความสำเร็จให้กับผู้ประกอบการด้วยกลยุทธ์การพัฒนา SMEs 4.0 โดยวางมาตรการใหญ่ไว้ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. มาตรการยกระดับศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือ SMEs ที่จะขยายการให้บริการครอบคลุมทุกจังหวัด ทั่วประเทศอย่างทั่วถึง โดยการยกระดับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขึ้นเป็นเครือข่ายศูนย์สนับสนุน และช่วยเหลือ SMEs ประจำจังหวัด ซึ่งรูปแบบและโครงสร้างจะเหมือนกับศูนย์SME Support & Rescue Center ที่ขณะนี้ได้ดำเนินการครบแล้วในทุกจังหวัด นอกจากนี้ ยังจะยกระดับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมทั้ง 11 แห่ง ทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก พิจิตร อุดรธานี ขอนแก่นนครราชสีมา อุบลราชธานี สุพรรณบุรี ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลาเพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพ SMEs ด้วยระบบนิเวศรูปแบบใหม่หรือ Ecosystem ให้ครอบคลุมทุกมิติ ได้แก่ การขับเคลื่อนผลงานนวัตกรรมไปสู่เชิงพาณิชย์ด้วยการส่งเสริมระบบดิจิทัล และเครื่องมือทันสมัยสำหรับการต่อยอดผลิตภัณฑ์เช่น 3D Printer ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ เพื่อให้ SMEs ในพื้นที่ทั่วประเทศได้มาทดลองเรียนรู้ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า โดยมีนักออกแบบที่คอยให้บริการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมด้วยการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ และเครือข่ายที่เป็นหน่วยงานหลักด้านการออกแบบให้สามารถแชร์ไอเดียและดำเนินธุรกิจร่วมกัน การเติมองค์ความรู้ในการเพิ่มผลิตภาพและมาตรฐาน การพัฒนาระบบบริหารจัดการ การบัญชีและการเงิน ให้ก้าวสู่ SMART SMEs ในลักษณะของ SME Academy โดยเฉพาะการใช้ระบบดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น E-Commerce ระบบ Application หรือการเรียนรู้บทเรียนต่างๆ ผ่านแพลทฟอร์มเว็บไซต์เพื่อก้าวสู่โลกการค้าสมัยใหม่ การจัดที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลทางอุตสาหกรรมประจำศูนย์เพื่อให้คำแนะนำเบื้องต้น จนถึงเชิงลึก อาทิ การบริหารจัดการโอกาสด้านการลงทุน โอกาสทางธุรกิจ ซึ่งจะเริ่มเปิดตัว การให้บริการรูปแบบใหม่ผ่านกิจกรรม Open House ราวในเดือนกันยายนนี้ที่จังหวัดชลบุรีเป็นที่แรก และจะดำเนินการให้ครบทั้ง 11 แห่งภายในปีนี้ 2. มาตรการการผลักดัน SMEs ที่มีศักยภาพตามแต่ละพื้นที่ ด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนา SMEs ตามแนวประชารัฐ โดยบูรณาการแนวทางร่วมกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับกระทรวงมหาดไทยเบื้องต้นได้เสนอนายกรัฐมนตรีให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนา SMEs ตามแนวประชารัฐจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน สำหรับภารกิจสำคัญก็คือกำหนดแนวทางการพัฒนา SMEs ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ความต้องการและศักยภาพของจังหวัด และคณะกรรมการชุดนี้จะมีองค์ประกอบของหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในจังหวัดทุกภาคส่วน มาร่วมกันส่งเสริมพัฒนาพร้อมผลักดัน SMEs ที่มีศักยภาพให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน 3. มาตรการเชื่อมโยง SMEs ไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลมากขึ้น โดยจะอาศัยความร่วมมือกับต่างประเทศในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศในระดับคู่ค้า ร่วมทุน ลงทุน ส่งออก หรือการร่วมมือพัฒนา ซึ่งที่ผ่านมาทางกระทรวงฯ ได้พยายามสร้างความสัมพันธ์กับประเทศที่เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อน การพัฒนาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมทุก ๆปี อาทิ ญี่ปุ่นได้มีการลงนาม MOU ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมของไทยกับกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นเพื่อยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยเชื่อมโยงกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อออกสู่ตลาดโลกไปด้วยกันครอบคลุมความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม S-Curve การพัฒนาพื้นที่ EEC รวมถึงการพัฒนาบุคลากรทุกระดับ รวมไปถึงSMEs ของไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น อุตสาหกรรมอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ชิ้นส่วนอากาศยาน และอุตสาหกรรมอาหาร ให้สามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตและเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้ เกาหลีใต้ ได้มีการลงนาม MOU กับ SMBA หรือกระทรวงส่งเสริมSMEs ของเกาหลีใต้ในการจัดตั้ง Thai – Korea Technology Center (TKTEC) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนหรือถ่ายทอดเทคโนโลยีรวมทั้งนวัตกรรมที่โดดเด่นของเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ หรือกระบวนการผลิต พร้อมด้วยการส่งเสริมสตาร์ทอัพในด้านระบบนิเวศและ กองทุน การพัฒนา ด้านไมโครเอสเอ็มอี รวมถึงการขยายธุรกิจต้นแบบที่โดดเด่นของเกาหลีมายังประเทศไทย เป็นต้น ฮ่องกง ได้มีการลงนาม MOU กับ HKTDC หรือสภาพัฒนาการค้าแห่งฮ่องกง โดยฮ่องกงถือเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของจีนในฐานะ“ตัวเชื่อม”ระหว่างจีนกับเขตเศรษฐกิจอื่น ๆ ในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับSMEs ไทยในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจร่วมกับจีนและตลาดโลกผ่านช่องทางดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบาย "One Belt-One Road" ที่มีความได้เปรียบที่สุดบนแถบยูเรเชีย เพื่อสร้างความมั่งคั่งได้ต่อไป เยอรมนี ซึ่งกำลังจัดตั้งคณะทำงานประชารัฐไทย-เยอรมัน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 โดยเยอรมนีเป็นต้นคิดและต้นแบบของโลกและไทยในเรื่อง Industry 4.0 จึงสามารถที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ความก้าวหน้าในการนำเทคโนโลยีสื่อสารและสารสนเทศ(ICT) ไปใช้ในกระบวนการผลิตสินค้า ซึ่งจุดเด่นที่สำคัญ คือสามารถสร้างเครือข่ายเชื่อมต่อความต้องการผู้บริโภคกับผู้ผลิตเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการแบบอัตโนมัติ(Automation) ผลิตสิ่งของหลากหลายรูปแบบได้ในเวลาเดียวกันแทนการผลิตครั้งละจำนวนมากๆ ดังเช่นในปัจจุบัน และสามารถทำได้ทุกแห่งในโลกผ่านระบบอินเตอร์เน็ตซึ่งสามารถขับเคลื่อนได้แม้ไม่มีผู้ควบคุม อ้างอิง https://goo.gl/PQubTH ---------------------------------------------------------- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา ธุรกิจอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการ ที่เป็นเลิศและมีความยั่งยืนสู่สากล โทรศัพท์ : (045)314135, (045)314216-7, (045)311987 โทรสาร : (045)311987 website : https://ipc7.dip.go.th facebook : https://www.facebook.com/dip.ipc7
09 ส.ค 2017
กระทรวงอุตสาหกรรม พัฒนาศักยภาพหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ภาคเหนือตอนบน
กระทรวงอุตสาหกรรม พัฒนาศักยภาพหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ภาคเหนือตอนบน
นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมการพัฒนา ‘หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์’ หรือ Creative Industry Village (CIV) ภายใต้โครงการสร้างสรรค์อุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรม เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ภายใต้กรอบการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศให้มีความเข้มแข็ง อุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บนพื้นฐานความได้เปรียบเชิงวัฒนธรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ คือ หมู่บ้านแห่งความสมดุลที่นำทุนทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต มาผนวกกับความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ เพื่อสร้างมูลค่า มีจิตบริการ ที่บริหารงานโดยชุมชน เป็นการสร้างเสริมรายได้เพิ่มขึ้นภายในชุมชน ส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่มีอาชีพ ลดการละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด ซึ่งโครงการนี้จัดทำทุกจังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละ 1 หมู่บ้าน โดยขณะนี้ ได้ดำเนินการอยู่ 9 หมู่บ้าน และพยายามต่อยอดให้เต็มรูปแบบ เพื่อนำไปเป็นตัวอย่างให้กับหมู่บ้านอื่นๆ ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ หมู่บ้าน CIV ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 โดยกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในรูปแบบของการบูรณาการงานร่วมกัน ซึ่งศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ตอบสนองแผนพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อวางรากฐานแนวคิดในการนำทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ตลอดจนส่งเสริมให้ชุมชนนำภูมิปัญญาและวัฒนธรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณค่าตรงกับความต้องการของผู้ซื้อในตลาดท่องเที่ยวต่อไป อ้างอิง https://goo.gl/NyTidC ---------------------------------------------------------- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา ธุรกิจอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการ ที่เป็นเลิศและมีความยั่งยืนสู่สากล โทรศัพท์ : (045)314135, (045)314216-7, (045)311987 โทรสาร : (045)311987 website : https://ipc7.dip.go.th facebook : https://www.facebook.com/dip.ipc7
09 ส.ค 2017
 ศภ.7 เข้าร่วมพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชการที่ 9
ศภ.7 เข้าร่วมพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชการที่ 9
วันที่ 9 สิงหาคม 2560 ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ผอ.ศภ.7 กสอ.) นางวีระวรรณ ปัณฑรสูตร มอบหมายให้ นายสุริยา โพธิยา หัวหน้าส่วนพัฒนาผู้ประกอบการและบุคลากรภาคอุตสาหกรรม (หส.สก.) , นางเปลี่ยน จำปาหอม เจ้าพนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมอาวุโส นำคณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 เข้าร่วมพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชการที่ 9 ณ แม่น้ำมูล บริเวณท่าน้ำหน้าวัดช่างหม้อ ตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี นายพิจิตร บุญทัน ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานฯ เจ้าหน้าที่เข้าร่วมกิจกรรม นายสุริยา โพธิยา,นางเปลี่ยน จำปาหอม, นางสาวนิสา แจ่มใส, นางกรรณิการ์ การกล้า, นางสาวสุภิญญา แก้วบ้านเหล่า, นางสาวจันทร์จิรา ทองนำ, นางวนิดา มูลสมบัติ,นายจิรณัฐกานต์ ซาหา,นายสมชาย เชาว์ประโคน ---------------------------------------------------------- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา ธุรกิจอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการ ที่เป็นเลิศและมีความยั่งยืนสู่สากล โทรศัพท์ : (045)314135, (045)314216-7, (045)311987 โทรสาร : (045)311987 website : https://ipc7.dip.go.th facebook : https://www.facebook.com/dip.ipc7
09 ส.ค 2017
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 จัดกิจกรรม “ปลูกดาวเรืองด้วยใจ ถวายพ่อ”
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 จัดกิจกรรม “ปลูกดาวเรืองด้วยใจ ถวายพ่อ”
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 จัดกิจกรรม “ปลูกดาวเรืองด้วยใจ ถวายพ่อ” ----------------------------------------------------------ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา ธุรกิจอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการ ที่เป็นเลิศและมีความยั่งยืนสู่สากลโทรศัพท์ : (045)314135, (045)314216-7, (045)311987โทรสาร : (045)311987website : https://ipc7.dip.go.thfacebook : https://www.facebook.com/dip.ipc7
09 ส.ค 2017
รายงานงบทดลองหน่วยเบิกจ่ายรายเดือน ประจำเดือน กรกฎาคม 2560 ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
รายงานงบทดลองหน่วยเบิกจ่ายรายเดือน ประจำเดือน กรกฎาคม 2560 ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
รายงานงบทดลองหน่วยเบิกจ่ายรายเดือน ประจำเดือน กรกฎาคม 2560 ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม Download
08 ส.ค 2017
 แล็บประชารัฐจับมือมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมยกระดับ SMEs
แล็บประชารัฐจับมือมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมยกระดับ SMEs
แล็บประชารัฐจับมือมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยเร่งยกระดับสินค้าเอสเอ็มอีไทยกลุ่ม Non Food เน้นเครื่องสำอางและของใช้ในธุรกิจโรงงาน ต่อยอดบรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มอาหารให้มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมตามเทรนด์ของโลก นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการ แล็บประชารัฐ เปิดเผยภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ด้านการตรวจวิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ด้านการทดสอบและตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ สำหรับการรับรองเครื่องหมายฉลากเขียวในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ว่า สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของแล็บประชารัฐที่กำลังขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ไม่ใช่อาหาร หรือ Non-food โดยเน้นกลุ่มเครื่องสำอางและของใช้ในธุรกิจโรงแรมที่พักท่องเที่ยวซึ่งกำลังบูม นอกจากนี้ จะร่วมกันยกระดับบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร ซึ่งทางมูลนิธิฯ กำลังจะออกเกณฑ์ใหม่เร็วๆ นี้ ดังนั้น หากร่วมมือกับมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ซึ่งเป็นผู้ให้การรับรองเครื่องหมาย "ฉลากเขียว" รายเดียวในประเทศไทย ก็จะช่วยให้การยกระดับมาตรฐานและเพิ่มมูลค่าสินค้าคนตัวเล็กครอบคลุมทั้งกลุ่มอาหารและไม่ใช่อาหาร อันเป็นฐานรากเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ นายเผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ รักษาการผู้อำนวยการ มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เปิดเผยว่า แล็บประชารัฐจะเป็นหน่วยงานแรกที่ได้รับการพิจารณาเลือกใช้เมื่อมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยมีความจำเป็นต้องใช้บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ โดยนอกจากจะช่วยกันพัฒนาการดำเนินงานด้านการทดสอบและตรวจวิเคราะห์แล้ว ยังจะสนับสนุนการศึกษาวิจัยข้อมูลด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงาน และสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ฉลากเขียวให้เป็นผู้ตรวจประเมินในกระบวนการขอรับรองฉลากเขียว ทั้งนี้ ฉลากเขียวเป็น 1 ใน 2 กลุ่มฉลากที่ได้รับการรับรองจากมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย โดยจะให้การรับรองในสินค้าอุปโภคบริโภค ยกเว้นอาหาร เครื่องดื่ม และยา สินค้าที่ได้รับฉลากดังกล่าวจะเป็นสินค้าที่มีองค์ประกอบ กระบวนการผลิต การใช้ และการทิ้งทำลายที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าสินค้าที่ไม่ได้รับการรับรอง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยที่ได้รับสิทธิ์ให้ใช้เครื่องหมายฉลากเขียวแล้ว 26 กลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมทั้งสิ้น 631 รายการ อ้างอิง https://goo.gl/d1boMu ---------------------------------------------------------- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา ธุรกิจอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการ ที่เป็นเลิศและมีความยั่งยืนสู่สากล โทรศัพท์ : (045)314135, (045)314216-7, (045)311987 โทรสาร : (045)311987 website : https://ipc7.dip.go.th facebook : https://www.facebook.com/dip.ipc7
08 ส.ค 2017
นางละเอียด ไขศรีมธุรส  เป็นประธาน จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับ การใช้ระบบ E-consult
นางละเอียด ไขศรีมธุรส เป็นประธาน จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับ การใช้ระบบ E-consult
วันที่ 8 สิงหาคม 2560 ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ผอ.ศภ.7 กสอ.) นางวีระวรรณ ปัณฑรสูตร มอบหมายให้ นางละเอียด ไขศรีมธุรส ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรม (ผอ.สธ.ศภ.7 กสอ.) เป็นประธาน จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับ การใช้ระบบ E-consult เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่ SMEs ผ่านระบบ Online และ การใช้งานเครื่องอ่านบัตรประชาชน (ID Card reader) ในการเชื่อมต่อไปยังระบบฐานข้อมูลผู้รับบริการ ณ ห้องประชุมสามพันโบก ซึ่งระบบ E-consult เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขอคำปรึกษาของ SME เบื้องต้น ผ่านระบบ Online ท่านสามารถนัดหมายการปรึกษาแนะนำจากที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญ ผ่านเจ้าหน้าที่ให้บริการ และช่วยลดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อขอรับบริการ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ---------------------------------------------------------- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา ธุรกิจอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการ ที่เป็นเลิศและมีความยั่งยืนสู่สากล โทรศัพท์ : (045)314135, (045)314216-7, (045)311987 โทรสาร : (045)311987 website : https://ipc7.dip.go.th facebook : https://www.facebook.com/dip.ipc7
08 ส.ค 2017
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 จัดกิจกรรม “ปลูกดาวเรืองด้วยใจ ถวายพ่อ”
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 จัดกิจกรรม “ปลูกดาวเรืองด้วยใจ ถวายพ่อ”
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 จัดกิจกรรม “ปลูกดาวเรืองด้วยใจ ถวายพ่อ”
08 ส.ค 2017
“สตาร์ทอัพไทย” ตื่นตัวเพิ่มถึง 8,000 ราย ชี้ 7 เทรนด์ธุรกิจมาแรงในปี 2561
“สตาร์ทอัพไทย” ตื่นตัวเพิ่มถึง 8,000 ราย ชี้ 7 เทรนด์ธุรกิจมาแรงในปี 2561
ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเผยปี 2560 จำนวนสตาร์ทอัพไทยเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 8,000 ราย จากเมื่อ 2 ปีที่แล้วมีเพียงประมาณ 100-200 ราย เท่ากับเพิ่มขึ้นกว่า 80% แจงเริ่มดำเนินธุรกิจจริงแล้วประมาณ 1,500 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มดิจิตอลและเทคโนโลยี ระบุเทรนด์อนาคตขยายครอบคลุมทุกกลุ่มตามกระแสโลกที่ก้าวไป ขณะที่ กสอ.จับมือเดลต้าฯ มอบทุน 5 แสนบาท จัดตั้งธุรกิจ โชว์ 4 นวัตกรรม เครื่องช่วยอ่านหนังสือคนตาบอด ระบบวัดอุณหภูมิทางการแพทย์เรียลไทม์ แอปฯ คุมไฟฟ้าไร้สาย ตัวช่วยคุมระบบ BAS ลดการเปลืองไฟ ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปี 2560 มีการเพิ่มขึ้นของสตาร์ทอัพทั่วไปกว่า 8,000 ราย จากช่วง 2-3 ปีก่อนที่มีเพียงแค่ระดับหลัก 100 ราย หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นกว่า 80% อย่างไรก็ตาม การเติบโตขึ้นในจำนวนดังกล่าวส่วนใหญ่แล้วยังเป็นสตาร์ทอัพที่อยู่ในช่วงของการพัฒนาแนวคิดและช่วงพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Problem Solution Fit and Product Market Fit) โดยสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้จริงอยู่ที่ประมาณ 1,500 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ ช่วยให้เกิดการจ้างงานได้ถึง 7,500 อัตรา หรือคิดเป็นสัดส่วน 1:5 (ที่มา : สมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่) ทั้งนี้ ยังพบอีกว่าสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ของไทยจะอยู่ในกลุ่มของแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน ระบบ Fintech, E-Commerce ที่กำลังครอบคลุมและกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก การบริการต่างๆ (Service Tech) ผ่านช่องทางออนไลน์ ตามมาด้วยการพัฒนาระบบการจัดการทางธุรกิจและการเป็นส่วนหนึ่งกับกิจวัตรประจำวัน โดยปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตดังกล่าวมาจากความนิยมในการใช้อินเทอร์เน็ต ความต้องการความสะดวกสบายในชีวิต ตลอดจนประสิทธิภาพทางระบบอินเทอร์เน็ตของไทยที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี สำหรับแนวโน้มในอนาคต การประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพจะไม่ได้มีเพียงแค่เทค-ดิจิตอลสตาร์ทอัพเท่านั้น แต่จะต้องพัฒนาให้เกิดอย่างครอบคลุมตามกระแสโลกที่เป็นไป โดยแนวโน้มสตาร์ทอัพที่จะเติบโตมากขึ้นในปี 2561 และน่าจับตาพบว่าอยู่ในภาคเกษตร อาหาร ท่องเที่ยว และสุขภาพ แบ่งเป็น 7 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจภาครัฐและการศึกษา กลุ่มการเกษตรและอาหาร กลุ่มนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตแห่งอนาคต กลุ่มไลฟ์สไตล์และความบันเทิง กลุ่มเทคโนโลยีท่องเที่ยว และกลุ่มเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ (ที่มา : สนช.) ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ด้าน ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวเสริมว่า กสอ.ได้กำหนดให้การส่งเสริมสตาร์ทอัพเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของหน่วยงาน ซึ่งแนวทางการส่งเสริมสตาร์ทอัพของ กสอ.ในปี 2560 นี้ได้แบ่งนโยบายการสนับสนุนกลุ่มคนดังกล่าวใน 4 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1. การพัฒนาผู้ประกอบการและสร้างสตาร์ทอัพรายใหม่ด้วยการส่งเสริมความรู้และทักษะในการดำเนินธุรกิจด้วยการนำระบบเทคโนโลยี ดิจิตอล และพัฒนานวัตกรรมขึ้นใหม่หรือพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ 2. การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการสร้างโมเดลธุรกิจเริ่มต้น การกำหนดตลาด กลุ่มเป้าหมายการเขียนแผนงาน เพื่อการนำเสนอแนวความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นไปได้ต่อการพัฒนาสู่ธุรกิจจริงต่อแหล่งทุน 3. การพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการทำงานและการแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ร่วมกันทั้งในรูปแบบ Co-Working Space, Maker Space ตลอดจน Innovation Space เพื่อผลักดันให้เกิดการรวมตัว พัฒนาผลงาน โดยมีตัวอย่างที่เห็นผลสำเร็จ อาทิ กลุ่ม Chiang Mai Maker Space พร้อมด้วยศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือ Thai IDC และศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรรมสู่อนาคต หรือ ศูนย์ ITC 4. การส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน โดยจัดให้มีกิจกรรมการแข่งขันเพื่อนำเสนอผลงานการสร้างผลิตภัณฑ์หรือการบริการที่มีมูลค่าสูง เพื่อให้ได้รับโอกาสและประสบการณ์ในการแสวงหาแหล่งทุนในรูปแบบ Angel Fund เพื่อการจัดตั้งธุรกิจ ซึ่งในปีนี้มีกิจกรรม Angel Fund for Startup ปี 2 โดย กสอ.ได้ร่วมกับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พัฒนาไอเดียสร้างสรรค์ที่เกิดจากคนรุ่นใหม่ที่สามารถต่อยอดเริ่มต้นธุรกิจได้ พิธีมอบเงินทุนสนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจ กิจกรรม Angel Fund for Startup ณ เวทีกลาง ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี นอกจากนั้น เร็วๆ นี้ กสอ.ได้จัดพิธีมอบเงินทุนสนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจ กิจกรรม Angel Fund for Startup ณ เวทีกลาง ชาลเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงาน Thailand Industry Expo 2017 โดยกิจกรรม Angel Fund for Startup ในปีนี้มีกลุ่มสตาร์ทอัพและนำเสนอผลงานจำนวนถึง 254 ทีม/459 คน และทีมที่ได้รับคัดเลือกเข้ารับทุน Angel Fund ในวงเงิน 500,000 บาท ภายใต้ Thailand 4.0 ได้แก่ ทีมReadRing (รี้ด-ริง) ผู้พัฒนาแนวคิดและผลงานคอมพิวเตอร์เบรลล์ขนาดพกพาพร้อมฟังก์ชันอ่านหนังสือปกติสำหรับคนตาบอด และทีม The Brother Team ผู้พัฒนาแนวคิดและผลงาน IO-Med โซลูชันส์เพื่อใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรม Health Care และภายใต้โจทย์ Energy Management ได้แก่ ทีม Pure Control System ผู้พัฒนาแนวคิดผลงานการบริหารจัดการเครือข่ายไฟฟ้าแสงสว่างขนาดใหญ่ในพื้นที่กว้างแบบไร้สาย สามารถเพิ่มหรือลดปริมาณแสงสว่างเพื่อการประหยัดพลังงาน และทีม OM FOR YOU ผู้พัฒนาแนวคิดผลงานระบบเพิ่มความชาญฉลาดให้กับ Building Automation System (BAS) เพื่อช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า “หลังจากผู้ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนแล้ว กสอ.จะเข้าติดตามความต่อเนื่อง และร่วมพัฒนา ตลอดจนเผยแพร่และสนับสนุนผ่านช่องทางต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น” ดร.พสุกล่าวทิ้งท้าย อ้างอิง https://goo.gl/frAEBW
07 ส.ค 2017
ศภ.7  เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพการปรึกษาแนะนำวิสาหกิจชุมชน
ศภ.7 เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพการปรึกษาแนะนำวิสาหกิจชุมชน
ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2560 ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ผอ.ศภ.7 กสอ.) นางวีระวรรณ ปัณฑรสูตร มอบหมายให้ นายประหยัด ดาราย้อย และนางสาวอภิชญา มาศรักษา เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพการปรึกษาแนะนำวิสาหกิจชุมชน ภายใต้โครงการยกระดับเพิ่มศักยภาพวิสาหกิจชุมชน ร่วมกับ สพช.กสอ. เพื่อให้การส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลในการดำเนินงาน จึงต้องสร้างความเข้าใจให้กับผู้ปฏิบัติงานและวิสาหกิจชุมชนเกี่ยวกับความสำคัญและเป้าหมายของการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนอย่างเป็นระบบ----------------------------------------------------------ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา ธุรกิจอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการ ที่เป็นเลิศและมีความยั่งยืนสู่สากลโทรศัพท์ : (045)314135, (045)314216-7, (045)311987โทรสาร : (045)311987website : https://ipc7.dip.go.thfacebook : https://www.facebook.com/dip.ipc7
07 ส.ค 2017