“กล่องใส่อาหาร” จากชานอ้อย นวัตกรรม “สีเขียว” เพื่อผู้ป่วยจาก วว.
ศ.(วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. โดย ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย ประสบผลสำเร็จในการวิจัยและพัฒนา ต้นแบบบรรจุภัณฑ์สีเขียว (Green Packaging) จากชานอ้อย เพื่อใช้สำหรับให้บริการอาหารผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยบรรจุภัณฑ์มีรูปลักษณ์ให้ความรู้สึกสะอาด ถูกสุขอนามัย ขนาดกะทัดรัด ทั้งนี้ วว. วิจัยและพัฒนาภายใต้แนวคิด บรรจุภัณฑ์สีเขียว ที่หมายถึง 1.ความเป็นมิตรกับผู้คน ทั้งผู้ป่วยและผู้ใช้งาน ด้วยรูปแบบที่สะดวกในการใช้งานครั้งเดียว ทั้งการบรรจุอาหารและการตักรับประทาน 2.ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยวัสดุชานอ้อย ที่เป็นวัสดุธรรมชาติ ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ นับเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดขยะพลาสติก ช่วยลดเศษอาหารเหลือทิ้งจากการไม่มีเวลารับประทานให้ทันกำหนดเก็บล้าง ลดการใช้น้ำ ลดน้ำเสีย จากการล้างภาชนะหลังการใช้งาน และ 3.ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ ผลิตได้ง่าย มีต้นทุนต่ำ มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถใช้บรรจุอาหารได้ทุกประเภท เพราะบรรจุภัณฑ์สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบรรจุอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to eat food) อาหารส่งถึงที่ (Delivery food) และอาหารจัดเลี้ยง (Food catering) โดยสอดคล้องกับ กับนโยบาย BCG Model คือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว ต้นแบบบรรจุภัณฑ์เขียวจากชานอ้อย สำหรับให้บริการอาหารผู้ป่วยในโรงพยาบาล และอยู่ระหว่างการต่อยอดงานวิจัยให้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากขึ้น ที่มา : https://www.smartsme.co.th/content/244509
22 ก.พ. 2022
หุ่นยนต์ช่วยยืนทำงาน เพิ่มแรงช่วยยกของ ลดอาการเมื่อยล้า
บริษัทญี่ปุ่นอัปเดตความสามารถเก้าอี้หุ่นยนต์ช่วยในการยืนทำงาน Walkable Chair และชุดหุ่นยนต์เพิ่มแรงยกสิ่งของให้กับมนุษย์ Muscle Suit Every ในงาน CES 2022 ภายในงาน CES 2022 มีนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ร่วมจัดแสดงมากมายหนึ่งในนั้นเป็นเทคโนโลยีชุดหุ่นยนต์ 2 รูปแบบ จากบริษัทเอกชนในประเทศญี่ปุ่น คือ เก้าอี้หุ่นยนต์ช่วยในการยืนทำงาน Walkable Chair และ Muscle Suit Every ชุดหุ่นยนต์เพิ่มแรงยกสิ่งของให้กับมนุษย์ โดยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทั้ง 2 รูปแบบได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพหลังจากการเปิดตัวเมื่อหลายปีก่อน เก้าอี้หุ่นยนต์ช่วยในการยืนทำงาน Walkable Chair เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2021 ที่ผ่านมาแต่ในปีนี้ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น การออกแบบใช้วัสดุโครงสร้างแข็งแรงน้ำหนักเบาเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องยืนทำงานเป็นเวลานานสามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยล้าทำให้ผู้ใช้งานยืนได้นานมากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ใช้งานก็สามารถเดินเปลี่ยนตำแหน่งการยืนได้อย่างคล่องตัว ชุดหุ่นยนต์เพิ่มแรงยกสิ่งของให้กับมนุษย์ Muscle Suit Every เปิดตัวในช่วงปี 2019 และได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพมาโดยตลอด ปัจจุบันถูกวางขายในประเทศญี่ปุ่น ชุดหุ่นยนต์ได้รับการออกแบบให้ผู้ใช้งานสามารถยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากกว่าการยกโดยไม่สวมใส่ชุดหุ่นยนต์ ปัจจุบันมีหลายบริษัทพัฒนาชุดหุ่นยนต์ในลักษณะใกล้เคียงชุดหุ่นยนต์ Muscle Suit Every และถูกนำไปใช้งานโรงงาน งานกลางแจ้ง รวมไปถึงใช้งานในด้านการทหาร นอกจากการนำหุ่นยนต์มาใช้งานรูปแบบต่าง ๆ การนำชุดหุ่นยนต์มาใช้ทำงานร่วมกับมนุษย์อาจกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับลดการใช้แรงงานมนุษย์โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่าการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติซึ่งปัจจุบันมีข้อจำกัดในด้านของการพัฒนาหุ่นยนต์อัตโนมัติที่มีคุณสมบัติครบและสามารถเคลื่อนที่ในลักษณะเดียวกับมนุษย์ยังไม่รวมต้นทุนในการพัฒนาหุ่นยนต์อัตโนมัติที่สูงหากต้องผลิตหุ่นยนต์ออกมาจำนวนมาก ที่มา : www.smartsme.co.th
21 ก.พ. 2022
มิจฉาชีพเยอะ! Whoscall เผยสถิติโทรศัพท์หลอกลวงในไทยปี 64 มีมากกว่า 6.4 ล้านครั้ง รูปแบบ SMS เยอะสุด
จะเห็นได้ว่าในช่วงหลังมีกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้ามาหลอกลวงประชาชนมากขึ้น โดยบทสนทนาจะมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การมีพัสดุติดค้าง, การเป็นหนี้บัตรเครดิต, เชิญชวนให้ลงทุน, ปล่อยเงินกู้ อย่างไรตาม คนส่วนใหญ่เริ่มรู้ทันได้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นการหลอกหลวง และอัดคลิปวิดีโอระหว่างคุยกันเผยแพร่ลงบนช่องทางออนไลน์ Whocall แอปพลิเคชันป้องกันการฉ้อโกง เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับโทรศัพท์หลอกลวงว่า ในปี 2564 มีการใช้โทรศัพท์หลอกลวงในไทยมากกว่า 6.4 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 270% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรูปแบบของข้อความ SMS ที่เพิ่มขึ้นถึง 57% ซึ่งวิธีที่พบบ่อยคือการเชิญชวนให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และดึงข้อมูลส่วนตัวไป ในเรื่องนี้คุณฐิตินันท์ สุทธินราพรรณ หัวหน้าฝ่ายการตลาด Gogolook ประเทศไทย ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whocall กล่าวว่าการส่งข้อความมีต้นทุนต่ำ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเหยื่อในอัตราสูง โดยเมื่อดูสถิติในส่วนของข้อความ SMS หลอกลวงเพิ่มสูงขึ้น 57% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งประชาชนต้องระมัดระวังเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา รูปแบบการหลอกลวงที่พบบ่อยคือโทรมาอ้างว่าเป็นคอลเซนเตอร์บริการจัดส่งสินค้า และมีผู้เสียหายสูญเสียเงินรวมกันมากกว่า 100 ล้านบาท อีกทั้ง รูปแบบหนึ่งที่พบ คือการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวหาเหยื่อว่ามีคดีฉ้อโกง ทั้งนี้ เมื่อดูในภาพรวมก็จะพบอีกว่า ในปี 2564 ข้อความหลอกลวงทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 70% โดยลิ้งค์ฟิชชิ่งเป็นรูปแบบการหลอกลวงที่พบบ่อยที่สุดที่เหยื่อจะถูกล่อให้เพิ่มเพื่อนกับบัญชีปลอมบนโซเชียลมีเดีย หรือหลอกให้เข้าถึงเว็บไซต์ปลอม ที่มา : www.smartsme.co.th
20 ก.พ. 2022
สุดเจ๋ง! นักศึกษาอินเดียพัฒนา AI ช่วยแปลภาษามือ สร้างความเข้าใจอย่างรวดเร็ว
Priyanjali Gupta นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ จากรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย ได้พัฒนาระบบ AI ที่สามารถแปลภาษามือแบบอเมริกัน (ASL) ได้แบบทันที ซึ่งจะช่วยให้คนที่มีปัญหาทางการได้ยิน สามารถสื่อสารกับคนที่ไม่เข้าใจภาษามือได้อย่างรวดเร็ว แต่ในเบื้องต้นระบบจะแปลได้เพียงคำง่าย ๆ 6 คำ และยังต้องพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพได้มากขึ้นต่อไป แม้ว่าปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น แต่ยังคงเป็นอุปสรรคสำหรับคนที่มีปัญหาการได้ยินจะสื่อสารกับคนปกติ โดยเฉพาะการสื่อสารแบบเห็นหน้าผ่านระบบวิดีโอคอล คู่สนทนาจะต้องเข้าใจภาษามือได้เป็นอย่างดี จึงจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายหนึ่งต้องการพูดว่าอะไร เครื่องมือในการแปลภาษามือแบบอเมริกัน (American Sign Language: ASL) ด้วยระบบ AI ของ Priyanjali Gupta นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์จาก Vellore Institute of Technology (VIT) รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย เป็นอีกหนึ่งความพยายามในการช่วยเหลือและลดช่องว่างระหว่างคนที่มีปัญหาทางการได้ยินให้สามารถสื่อสารกับคนปกติได้ง่ายขึ้น โดยเธอได้แชร์ผลงานลงบนแพลตฟอร์หางาน ซึ่งได้รับความสนใจและคำชื่นชมเป็นจำนวนมาก การทำงานของระบบแปลภาษามือด้วย AI เริ่มต้นจากการแปลภาษามือซึ่งเป็นการทำท่าทางต่าง ๆ จากอาสาสมัครให้เป็นภาษาอังกฤษ โดยได้ใช้เทคโนโลยีการจดจำภาพ (Image Recognition) แล้วนำผลที่ได้มาวิเคราะห์การเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะแขนและนิ้ว ระบบสามารถแปลภาษามือได้ทันที แต่ในช่วงแรกของการพัฒนา จะยังแปลได้เพียงคำภาษาอังกฤษง่าย ๆ และยังไม่ได้เป็นประโยคที่ซับซ้อน เช่น “สวัสดี , ฉักรักคุณ , ขอบคุณ , ได้โปรด , ใช่ หรือ ไม่ใช่ ซึ่งเป็นคำที่คนมักใช้งานบ่อยที่สุด สำหรับชุดข้อมูลที่ใช้แปลในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ Priyanjali Gupta พัฒนาขึ้นมาเองจากเว็บแคมแบบเฟรมเดียว จึงยังไม่สามารถใช้งานกับวิดีโอได้ แต่ได้พัฒนาต่อด้วยการนำเครือข่ายประสาทเทียมแบบ LSTM (Long-Short Term Memory) มาใช้งานร่วมด้วย และมีแผนที่จะนำเทคโนโลยีอื่น ๆ มาช่วยในการพัฒนา เพื่อให้การแปลภาษามือมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่มา : www.smartsme.co.th
19 ก.พ. 2022
จับตา! อีก 10 ปี “เงินหยวนดิจิทัล” มีโอกาสเทียบเท่าเงินดอลลาร์ในตลาดโลก
สกุลเงินหยวนของจีนถูกจับตามองจากหลายฝ่ายว่าในอนาคตจะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในโลกการชำระเงินที่อาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม Richard Turrin ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเงิน และเป็นผู้เขียนเรื่อง “Cashless: การปฏิวัติสกุลเงินดิจิทัลของจีน” ออกมาเปิดเผยว่า เงินหยวนดิจิทัลที่จีนเพิ่งเริ่มต้นพัฒนาจะก้าวขึ้นมามีบทบาทท้าทายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในการชำระเงินระหว่างประเทศภายในศตวรรษหน้า “หากยังจำกันได้ จีนเป็นประเทศที่มีการค้าขนาดใหญ่ และคุณจะค่อย ๆ เห็นสกุลเงินหยวนดิจิทัลเข้ามาแทนที่ดอลลาร์ เมื่อซื้อของจากจีน” Turrin กล่าวกับรายการ “Squawk Box Asia” ของ CNBC ในอนาคต 5-10 ปี แน่นอนว่า “หยวนดิจิทัล” สามารถเข้ามามีบทบาทสำคัญแทนการใช้เงินดอลลาร์ในการค้าระหว่างประเทศ โดยการขับเคลื่อนระบบทางเลือกการชำระเงินมีแนวโน้มมาจากความต้องการของประเทศต่าง ๆ ที่จะลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่เกือบ 100% ใช้สกุลเงินดังกล่าว Turrin วิเคราะห์ว่าอนาคตจะเริ่มจะเห็นการตีกลับที่หลายประเทศเริ่มบริหารความเสี่ยงลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์จาก 100% ลดลงเหลือ 80%, 85% โดยธนาคารประชาชนแห่งชาติจีนได้ดำเนินการเกี่ยวกับสกุลดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2014 ส่วนธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้ยืนกรานว่าจะทำดอลลาร์ดิจิทัลหรือไม่ ขณะที่โจ ไบเดน เรียกร้องให้มีมาตรการเร่งด่วนในการวิจัย และพัฒนาเงินดอลลาร์ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อศักยภาพในการชำระเงิน “จีนล้ำหน้าเทคโนโลยีด้านการเงินไปก่อนใครราว 10 ปี ด้านสหรัฐฯ ต้องใช้เวลาอีก 5 ปี ในการวางแผน และใช้สกุลเงินดิจิทัล” Turrin กล่าว อย่างไรก็ตาม เรื่องที่น่าจับตามองคือพันธมิตรของทั้งทางฝั่งจีน และสหรัฐฯ หลังจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ทางฝั่งจีนเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และปฏิเสธโจมตีรัสเซียในฐานะผู้บุกรุกแต่อย่างใด ที่มา : www.smartsme.co.th
18 ก.พ. 2022
Glossier เริ่มต้นจากบล็อกความงาม ตอนนี้เป็นบริษัทมูลค่า 1 พันล้าน
Glossier เจ้าของแบรนด์ความงามในนิวยอร์กตอนนี้มีมูลค่า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปเรียบร้อยแล้วจากการระดมทุนรอบล่าสุด นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของสตาร์ทอัพด้านความงามที่มีจุดเริ่มต้นจากสิ่งที่ตัวเองรัก จากนั้นค่อยๆ เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นบริษัทพันล้าน ในปี 2010 Emily Weiss ได้เริ่มบล็อกยอดนิยมที่ชื่อว่า "Into the Gloss" โดยนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับเคล็ดลับความงาม เทรนด์ของเครื่องสำอาง และเทคนิคการแต่งหน้าในรูปแบบต่างๆ จากนั้นเธอใช้มันเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้แบรนด์ Glossier ในอีก 4 ปีต่อมา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายราคาไม่แพง แบรนด์ Glossier ได้ดึงดูดให้มีผู้ติดตามเกือบ 2 ล้านคน บน Instagram ทำให้ Weiss ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หญิงเก่งที่สามารถรีดประสิทธิภาพจากการใช้โซเชียลมีเดียได้อย่างเต็มที่ในการเข้าถึงลูกค้า ปี 2017 Weiss บอกว่าเธอรู้ตัวว่าเธอสามารถใช้โซเชียลมีเดียเพื่อพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง และสร้างสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ผู้หญิงมีหน้าที่ดูแลตัวเองให้ดูดี และควรจะค้นหาข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขาต้องการจากเพื่อนหรือจากผู้หญิงคนอื่นๆ ในโลกและออนไลน์ ร้านออฟไลน์ 2 ร้านของ Glossier นั้นเต็มไปด้วยการตกแต่งที่เป็นมิตรกับ Instagram ทั่วทั้งพื้นที่กระตุ้นให้ผู้มาเยี่ยมชมทำการถ่ายภาพและแชร์ออกไปบนโลกโซเชียลมีเดีย มันเป็นวิธีที่ชาญฉลาดมากในการทำให้ผู้บริโภคของคุณกลายเป็นผู้ทำการโฆษณาให้กับสินค้าของคุณ นอกจากนั้นการสร้างคำแนะนำแบบปากต่อปาก ยังคงทรงพลังเสมอในการทำให้คนซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณ ที่มา : www.smartsme.co.th
17 ก.พ. 2022
AI จะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของแพทย์ เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ
ประเทศอินเดียมีปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพในพื้นที่ต่างๆ อย่างมากมาย ในบางพื้นที่คนได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ในบางพื้นที่ยังเข้าถึงบริการพื้นฐานด้านสุขภาพไม่ได้เลย ทำให้บรรดาสตาร์ทอัพหลายแห่งในอินเดีย ทุ่มเทให้กับการแก้ไขปัญหานี้ โดยเฉพาะเรื่องของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอินเดียมีการเติบโตของสตาร์ทอัพทางด้านสุขภาพจำนวนมาก เพราะด้วยจำนวนประชากรและความแตกต่างของการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ทำให้มีความตื่นตัวในการแก้ไขปัญหาด้านาสุขภาพ และมันก็สอดคล้องกับความก้าวหน้าของ AI ที่สามารถลดปัญหาเหล่านี้ โดยการทำตัวเป็นผู้ช่วยของแพทย์ในการตัดสินใจเพื่อการรักษาในเคสต่างๆ การทดสอบการวินิจฉัยหลายอย่างที่ดำเนินการผ่านความช่วยเหลือของ AI ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการผู้ป่วยได้ดีขึ้น การเกิดขึ้นของ AI ทำให้การตรวจหา “มะเร็ง” ทำได้ง่ายขึ้นและคล่องตัวมากกว่าเดิม Vishwas Mudagal ซีอีโอของ Good work Labs กล่าวว่า “AI กำลังรุกเข้าไปในพื้นที่ด้านการดูแลสุขภาพ เรากำลังช่วย บริษัท ต่างๆ ในการหาวิธีตรวจหามะเร็ง สำหรับการตรวจจับมะเร็งคุณต้องใช้อัลกอริทึมที่คุณจะทำนายว่ามีใครบางคนกำลังเป็นมะเร็งหรือไม่ การดูตัวอย่างเลือดคุณสามารถคาดการณ์ได้ว่าผู้ป่วยบางรายจะเป็นมะเร็งในอนาคตหรือไม่” Deep Learning จะแนะนำการวินิจฉัยโรค การดูแลสุขภาพด้วยระบบดิจิทัลจะช่วยให้สามารถเข้าถึงได้มากและง่ายขึ้น นอกจากนี้อินเดียมีความไม่เท่าเทียมกันในอัตราส่วนของแพทย์ต่อผู้ป่วย AI จะมาเป็นผู้ช่วยเพื่อลดเวลาที่แพทย์ใช้ในการรักษาแบบเดิม เพื่อทำให้สามารถเพิ่มขอบเขตของการรักษาผู้ป่วยในจำนวนที่มากขึ้นได้ ที่มา : www.smartsme.co.th
16 ก.พ. 2022
คณะทำงาน SME Startup PE VC เห็นพร้องเกณฑ์เปิดทางเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพระดมทุนในวงกว้าง
ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมระดมความคิดเห็นต่อหลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนและรองรับการระดมทุนของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพเพื่อสามารถระดมทุนในวงกว้างได้ ซึ่งหลักการของร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านมติเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนในการประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 และร่างหลักเกณฑ์อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็น โดยที่ประชุมคณะทำงานฯ เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ที่นำเสนอ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพระดมทุนได้รวดเร็วและในต้นทุนที่เหมาะสม ทั้งนี้ ร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะกำหนดให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่เป็นบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัดซึ่งมีผลการดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง (proven track record) หรือมีมูลค่ากิจการระดับหนึ่งแล้ว สามารถระดมทุนจากบุคคลในวงกว้างและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดรองได้โดยไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตจากสำนักงาน สำหรับคณะทำงาน SME Startup PE VC ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จำนวน 14 แห่ง ได้แก่ ก.ล.ต. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, กระทรวงพาณิชย์, กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, กระทรวงอุตสาหกรรม, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย, สมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน, ชมรมวาณิชธนกิจ, สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ที่มา : www.smartsme.co.th
15 ก.พ. 2022
WeWork สตาร์ทอัพชื่อดัง ยื่นฟ้อง SoftBank ข้อหาไม่ทำตามข้อตกลง ทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่อง
เรื่องราวระหว่างนักลงทุนและสตาร์ทอัพคู่นี้ ท่าทางจะไม่จบลงง่าย ๆ ล่าสุดทาง WeWork ได้ทำการยื่นฟ้อง SoftBank ด้วยข้อกล่าวหาว่าทาง SoftBank ไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่ว่าจะทำการซื้อหุ้นคืนตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทำให้สภาพคล่องของ WeWork อยู่ในภาวะที่ย่ำแย่มาก การยื่นฟ้องครั้งนี้ WeWork กล่าวว่า SoftBank ไม่ยอมทำการซื้อหุ้นมูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญฯ คืนตามที่ตกลงกันไว้ ส่วนทาง Softbank ก็ออกมาบอกว่า การที่ไม่สามารถทำตามข้อตกลงนั้นก็เพราะว่า มีเงื่อนไขหลายข้อที่ทาง WeWork ไม่สามารถทำได้ตามระยะเวลาที่กำหนด Adam Neumann อดีต CEO ของ WeWork ได้ทำการยื่นฟ้องกองทุน vision fund ของ Softbank ว่าไม่ยอมทำตามข้อตกลง Tender offer หรือการทำข้อตกลงในการเข้าซื้อหลักทรัพย์ของกิจการเพื่อเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทนั้น ๆ และทำให้สามารถมีส่วนร่วมในการบริหารบริษัทที่เข้าซื้อได้ ซึ่งการที่ Softbank ไม่ทำตามข้อตกลงดังกล่าว ก็ทำให้ผู้ถือหุ้นของ WeWork ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งสองบริษัทเคยตกลงกันไว้ว่า Softbank จะต้องมีมาตรการช่วยเหลือบริษัทมูลค่าหลายพันล้านเหรียญฯ แลกกับการที่จะให้ Softbank เข้าควบคุมบริษัท WeWork แต่การฟ้องร้องครั้งนี้ต้องมีลำดับขั้นตอนทางกฎหมาย โดยฝ่ายกฎหมายของ Softbank ได้ออกมาบอกว่าตัวข้อตกลงดังกล่าวนั้นมีเรื่องการซื้อหุ้นคืน ไม่มีข้อไหนเลยที่ระบุว่า Softbank จะต้องทำตามข้อตกลงทั้งหมด ซึ่งผลการตัดสินการฟ้องร้องในครั้งนี้ต้องติดตามกันต่อไป ที่มา : www.smartsme.co.th
14 ก.พ. 2022
Metaverse Human Virtual Influencer คนแรกของไทยเตรียมรับงาน ยุคของคนดัง ที่อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นคนเสมอไป !!!
หลังจากที่เราเห็นประเทศเกาหลีที่มีการสร้างดารา หรือ Influencer จาก VR แต่ตอนนี้ในประเทศไทยได้มีการสร้าง Metaverse Human Virtual Influencer คนแรกแล้วเช่นกัน ซึ่งทาง SIA Bangkok เอเจนซี่รายใหม่ในไทย คือ ผู้สร้าง ไอ-ไอรีน Metaverse Human Virtual Influencer คนแรกในไทย เป็นหญิงสาววัย 21 ปี ตั้งเป้าเป็นเป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายแบบโฆษณา มิวสิควิดีโอ รีวิวสินค้า คาแรคเตอร์ที่วางไว้คือ ชื่อจริงว่า ไอรีน (Ailynn), ชื่อเล่น ไอ (Ai), วันเกิด วันอาทิตย์ ที่ 1 ตุลาคม 2543, อายุ 21 ปี, อาชีพ Creative / Freelance / Influencer, ส่วนสูง 165 ซม., น้ำหนัก 52 กิโลกรัม, กรุ๊ปเลือด AB, ความสามารถพิเศษ ดนตรี เต้น และถ่ายภาพ เทรนด์ Virtual Influencer เริ่มมีให้ได้ยินมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์ที่คนถูกจำกัดกิจกรรมการใช้ชีวิตข้างนอก แต่ Virtual Influencer สามารถสร้างเนื้อหาปลดล็อกข้อจำกัดการล็อกดาวน์ได้ ปัจจุบันมี Virtual Influencer ดังๆ หลายรายแล้ว เช่น Lil Miquela ผู้ติดตาม 1.6 ล้านราย เคยร่วมงานกับ Samsung ในแคมเปญ #teamgalaxy, Shudu ผู้ติดตามเกือบสองแสนราย เคยร่วมงานกับ Fenty Beauty แบรนด์ความงามจากนักร้องสาว Rihanna, Bermuda ผู้ติดตาม 150,000 ราย เป็นต้น และนอกจากนี้ Virtual Influencer ยังมีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆเพราะสามารถกำหนดคาแร็คเตอร์ ผิวหน้า ผิวกาย ได้ตามที่ต้องการ รวมถึงอุปนิสัยลักษณะ ได้ตรงตามที่ต้องการอีกด้วย ที่มา : www.smartsme.co.th
13 ก.พ. 2022