หมวดหมู่
แท็ก:
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส! PriceLOCQ สตาร์ทอัพฟิลิปปินส์เปิดขายน้ำมันล่วงหน้า ช่วยลูกค้าได้น้ำมันราคาถูก
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าราคาพลังงาน โดยเฉพาะ “น้ำมัน” ทะยานพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ยานพาหนะที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ เงินในกระเป๋าสตางค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันจะดีกว่านี้หรือไม่ หากสามารถจัดการซื้อน้ำมันล่วงหน้าได้ในราคาถูก แบบไม่ต้องมานั่งกังวลว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น แล้วต้องซื้อในราคานั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อสตาร์ทอัพชื่อว่า PriceLOCQ ที่คิดค้นไอเดียให้ลูกค้าซื้อน้ำมันล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน สำหรับ PriceLOCQ เป็นแอปพลิเคชันถูกพัฒนาโดย Mark Yu ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารของ Seaoil ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันในฟิลิปปินส์ โดยแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อเชื้อพลิงได้เมื่อพวกเขาต้องการ แม้ช่วงแรกของการทำธุรกิจจะไม่ได้จะไม่ได้ให้มีการสั่งซื้อน้ำมันล่วงหน้าได้ก็ตาม แต่ YU ได้สร้างแนวคิดเกี่ยวกับโทเค็นดิจิทัลโดยอิงจากน้ำมัน เนื่องจากบล็อกเชนกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในฟิลิปปินส์ แนวคิดนี้จึงทำให้โทเค็นนำมันถูกพัฒนาเพื่อมอบสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง และธุรกิจต้องการส่งเสริมให้ผู้คนมีส่วนร่วมในตลาดพลังงาน มาวันนี้ PriceLOCQ มีส่วนสำคัญในชีวิตผู้คนฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครน เช่นเดียวกับอุปทานด้านเชื้อเพลิงที่ต่ำสุดในตลาดโลก ทำให้ PriceLOCQ กลายเป็นทางเลือกของคนฟิลิปปินส์ Yu อธิบายว่า PriceLOCQ จะใช้แนวคิดการป้องกัยความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงให้กับผู้บริโภค โดยสามารถซื้อเชื้อเพลิงล่วงหน้าได้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถลดความเสี่ยงจากความผันผวน และต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยประหยัดน้ำมัน อย่างไรก็ตาม PriceLOCQ อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อน้ำมันผ่านแอปฯ ล่วงหน้าสูงสุดไม่เกิน 600 ลิตร ทั้งเบนซิน และดีเซล ผ่านสถานีบริการน้ำมัน Seaoil ผ่าน 300 สาขาทั่วประเทศฟิลิปปินส์ ที่มา: https://www.smartsme.co.th/content/246995
03 พ.ค. 2565
Warren Buffett : ผมไม่เคยเชื่อบิตคอยน์ ต่อให้เอาเหรียญทั้งโลกมากองขายราคา 25 ดอลลาร์ ก็ไม่ซื้อ
ดูเหมือนว่าสถานการณ์การลงทุนสกุลเงินดิจิทัลคริปโตฯ เกิดความผันผวนทางด้านราคาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหรียญที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างบิตคอยน์ที่เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ราคาร่วงลงมาอยู่ที่ 27,155.93 ดอลลาร์/BTC ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 2 ปี และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาบิตคอยน์จะพุ่งกลับมาเหมือนปกติ หรือจะร่วงลงไปอีก แม้ที่ผ่านมา “บิตคอยน์” จะเป็นการลงทุนแบบใหม่ที่ถูกโปรโมทจนดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้ามาลงทุน พร้อมทั้งถูกคาดหวังว่าจะเป็นการลงทุนแห่งอนาคตที่เข้ามาแทนที่การลงทุนแบบเดิม อย่างไรก็ตาม เมื่อเราย้อนดูคำพูดของ “พ่อมดการเงิน” Warren Buffett จะพบว่าเจ้าตัวไม่เคยเชื่อมั่นในบิตคอยน์เลย เพราะมองว่าไม่สามารถสร้างรายได้ได้ และไม่มีความคิดที่จะลงทุน ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ Warren Buffett กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทในวันที่ 30 เมษายน 2022 ซึ่ง ณ ขณะนั้น คริปโตฯ กำลังขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบิตคอยน์ แต่ Buffett มองว่าบิตคอยน์ไม่ได้มีค่าอะไรเลย เพราะไม่สามารถสร้างผลผลิต เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีประสิทธิผล จับต้องไม่ได้ “หากนำบิตคอยน์ทั้งหมดของโลกมากองอยู่ตรงหน้า แล้วเสนอให้ในราคา 25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ผมก็ไม่คิดจะซื้อ แม้ต่อจากนี้อีก 5-10 ปี ราคาบิตคอยน์จะขึ้นหรือลง ผมค่อนข้างแน่ใจว่าจะไม่ได้ผลผลิตอะไรเลย” Buffett กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนมองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ และหวังว่าในอนาคตจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อถือครองในระยะเวลายาวนาน แต่การลงทุนคริปโตฯ มีอะไรซับซ้อนมากกว่านั้น ทั้งนี้ วลีเด็ดของ Buffett ที่มีต่อบิตคอยน์ คือ “บิตคอยน์เป็นเหมือนยาที่มีฤทธิ์แรงเป็นสองเท่า” ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นมุมมองเป็นอย่างดีเกี่ยวกับบิตคอยน์ ที่มา: businessinsider, cnbc, https://www.smartsme.co.th/content/246993
02 พ.ค. 2565
MG ปิดการรับจองรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น NEW MG EP PLUS
MG ปิดรับจองรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น NEW MG EP PLUS แบบ 100% หลังโควิด-19 สร้างผลกระทบต่อการผลิต และการจัดส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำหนังสือชี้แจง ขอขอบคุณลูกค้าที่มั่นใจ และได้ทำการจองรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยกระแสตอบรับที่มีมาอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกจากนโยบายภาครัฐที่ให้การสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อการผลิต และการจัดส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ไม่สามารถรองรับกับปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นทางบริษัทฯ ได้พิจารณาถึงกำลังการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีอย่างจำกัด จึงมีความจำเป็นต้องขอหยุดรับการจองรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับรุ่น NEW MG EP PLUS โดยจะขอหยุดรับจองตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 เวลา 23.59 น. บริษัทฯ ขอขอบพระคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจ และให้การสนับสนุนบริษัทฯ และรถยนต์เอ็มจีเป็นอย่างดีมาโดยตลอด หากมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสถัดไป ที่มา : https://www.smartsme.co.th/content/246989
01 พ.ค. 2565
SMEs ไทยมีแนวโน้มการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตาม
บีเอสเอชี้จุดอ่อนของ SMEs ไทยขาดทักษะการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ เสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในการรักษาความลับทางการค้าและข้อมูลสำคัญของธุรกิจ พันธมิตรซอฟต์แวร์ (บีเอสเอ) องค์กรที่รณรงค์ส่งเสริมการใช้งานซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เผยว่า จากปี 2561 บีเอสเอยังคงสำรวจการใช้งานซอฟต์แวร์ขององค์กรอย่างต่อเนื่อง พบกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยยังมีการใช้งานซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ และใช้งานซอฟต์แวร์ไม่ถูกต้องตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ในขณะเดียวกันพบแนวโน้มการใช้งานซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเพิ่มสูงขึ้นในบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SMEs นอกจากนั้นยังพบว่าองค์กรธุรกิจที่ใช้งานซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ หรือใช้ไม่ถูกต้องตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ส่วนใหญ่ยังไม่มีการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ (Software Asset Management : SAM) หรือมีการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ที่ไม่ดีพอเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล และขาดการบูรณาการเข้ากับกลยุทธ์ด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security) ทำให้องค์กรธุรกิจเหล่านี้มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ อาจทำให้ความลับทางการค้าและข้อมูลสำคัญรั่วไหล คู่ค้าหรือนักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจด้วย และอาจเลือกลงทุนกับองค์กรธุรกิจที่ใช้งานซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องในประเทศอื่นในอาเซียน บีเอสเอเห็นว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดที่จะทำให้อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยลดลงได้อย่างรวดเร็ว คือความร่วมมือจากผู้บริหารองค์กรในการกำกับดูแลการใช้งานซอฟต์แวร์ให้เป็นอย่างถูกต้อง การเพิ่มทักษะของเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศในเรื่องการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ในระดับสากล รวมถึงการนำเรื่องการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การบริหารองค์กร ที่มา : https://www.bsa.org/, https://www.smartsme.co.th/content/232638
30 เม.ย. 2565
อาชญากรไซเบอร์ใช้เรื่องไวรัสเมืองอู่ฮั่นทำการแพร่กระจายมัลแวร์
ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่เชื้อไวรัสจากเมืองอู่ฮั่นของประเทศจีนนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศว่าไวรัสโคโรนาเป็นภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพระดับโลก หลายประเทศกำลังจำกัด การเดินทางของผู้คนจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ยิ่งเรากังวลเรื่องนี้มากเท่าไร อาชญากรไซเบอร์ก็รู้และคิดหาทางเล่นงานเราจากความกังวลในเรื่องนี้ แน่นอนพวกเขาเหล่านั้นต้องการแพร่กระจายมัลแวร์เพื่อหวังผลในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งจะเป็นการส่งไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับ coronavirus ในรูปแบบของ PDF, MP4 และ DOC ที่มักจะบอกว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวข้องกับวิธีการป้องกันตัวจากไวรัส และข้อมูลล่าสุดของการแพร่กระจาย เมื่อผู้ได้รับทำการเปิดไฟล์เหล่านี้ก็จะเป็นการทำให้มัลแวร์แพร่กระจายเข้าไปในเครืองคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายของบริษัทได้ มีการคาดการณ์ว่าจำนวนไฟล์ที่เป็นอันตรายจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ ควรทำการแจ้งเตือนพนักงานของพวกเขาให้ระวังอีเมลหรือลิงก์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ coronavirus และควรแนะนำให้ทำการหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการจะปลอดภัยกว่า ที่มา : https://www.natlawreview.com/article/cyber-criminals-using-coronavirus-concern-to-assist-intrusions https://www.smartsme.co.th/content/232684
29 เม.ย. 2565
หุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์เริ่มทำงานแล้วที่ผับแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว
หุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ตัวแรกของญี่ปุ่น เริ่มให้บริการชงเครื่องดื่มให้กับลูกค้าในผับของกรุงโตเกียว นี่เป็นก้าวแรกของการทดสอบการนำเอาระบบอัตโนมัติมาทำงานแทนคนในร้านเครื่องดื่ม เพื่อต่อสู้กับปัญหาการขาดแคลนแรงงานและสังคมผู้สูงอายุ หุ่นยนต์ที่ผลิตโดย บริษัท QBIT Robotics เข้าประจำการทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์ ในร้านโยโรโนะตากิ มันสามารถเทเบียร์หนึ่งแก้วเสร็จในเวลา 40 วินาที และทำการผสมค็อกเทลเสร็จใน 1 นาที นอกจากนี้ระหว่างที่ทำการเทและชงเครื่องดื่ม ยังสามารถทักทายและพูดคุยกับลูกค้าผ่านทางหน้าจอของแท็บเล็ตได้อีกด้วย นี่เป็นอีกหนึ่งทางออกในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะได้ลดข้อ จำกัดของการขอวีซ่าเพื่อดึงดูดแรงงานต่างชาติแล้วก็ตาม ธุรกิจต่าง ๆ ก็ยังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานอยู่ดี เนื่องจากจำนวนประชากรที่ลดลงและจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด การทดลองหุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์นี้จะใช้เวลาในการทดสอบ 2 เดือน ก่อนที่จะทำการประเมินผล อาจจะต้องมีการปรับปรุงเรื่องความเร็วในการเทและชงเครื่องดื่มเพิ่มเติม รวมถึงหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องพื้นที่ในการติดตั้งหุ่นยนต์ เพราะพื้นที่ในร้านดูเหมือนจะเล็กเกินไปสำหรับหุ่นยนต์ ส่วนเรื่องของราคานั้นอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านเยน หรือเทียบเป็นเงินเดือนที่ใช้จ้างบาร์เทนเดอร์ที่เป็นคนในระยะเวลา 3 ปี ที่มา : https://japantoday.com/category/tech/Robot-bartender-starts-work-at-Tokyo-pub https://www.smartsme.co.th/content/232770
28 เม.ย. 2565
AI and Happiness โซลูชั่นช่วยเพิ่มความสุขให้กับพนักงาน
ฮิตาชิเผยโฉม AI and Happiness โซลูชั่นช่วยเพิ่มความสุขให้กับพนักงานในองค์กร โดยใช้การเก็บข้อมูลส่วนตัวของพนักงานไปทำการวิเคราะห์เพื่อสร้างความสุขให้เพิ่มขึ้น การให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงานของชาวญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่มีการทำมาตลอด เพราะนั่นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ญี่ปุ่นเกิดการเติบโตในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง แต่ในระยะหลังนี้หลาย ๆ หน่วยงานต่างก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับความสุขของพนักงานมากขึ้น จึงมีการคิดค้นนวัตกรรมต่างที่จะช่วยลดความเครียดในการทำงานให้กับพนักงานมากขึ้น บนความเชื่อที่ว่าความเครียดจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลง ฮิตาชิ จึงได้เริ่มค้นคว้าโซลูชั่นเพื่อแก้ไขปัญหาความเครียดให้กับพนักงาน โดยการนำเอาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาปรับใช้ในองค์กร โดยเริ่มจากการเก็บข้อมูลของความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการทำงานกับคุณภาพของงาน ผ่านอุปกรณ์สวมใส่อย่างป้ายพนักงานและสายรัดข้อมือ ซึ่งภายในอุปกรณ์เหล่านั้นจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว, อัตราการเต้นของหัวใจ หรือแม้กระทั่งการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูก AI ทำการวิเคราะเพื่อหาความเชื่อมโยงระหว่างความสุขของพนักงาน และประสิทธิภาพในการทำงานตลอดจนคุณภาพของที่ได้ หากพบว่าพนักงานคนใดมีความเครียดมากเกินไป ก็จะมีคำแนะนำให้พนักงานเหล่านั้นทำกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียด ในอนาคตทางฮิตาชิตั้งใจที่จะพัฒนา AI มาปรับใช้กับองค์กร เพื่อใช้ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน บนพื้นฐานของการลดความเครียดและเพิ่มความสุขให้กับพนักงานในองค์กรได้ ที่มา : https://social-innovation.hitachi/en-us/think-ahead/manufacturing/ai-for-happy-workforce https://www.smartsme.co.th/content/232814
27 เม.ย. 2565
Amazon, Ericsson และ Facebook พากันถอนตัวจากงาน Mobile World Congress 2020
งานเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังสูญเสียความยิ่งใหญ่ เพราะพิษจากไวรัสโคโรนา เมื่อ Amazon, Ericsson, Facebook, Sony, Intel, Cisco และ LG กำลังถอนตัวจากงาน Mobile World Congress 2020 เนื่องจากกลัวความเสี่ยงเรื่องไวรัสโรนา งานนี้จะจัดขึ้นที่บาร์เซโลนาระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นงานประชุมประจำปีที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยทั่วไปแล้วจะดึงดูดผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 100,000 รายและกว่า 2,400 บริษัท บรรดาผู้เล่นรายใหญ่ ๆ จะใช้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และแสดงนวัตกรรมล่าสุดของพวกเขา แต่ในปีนี้บริษัทใหญ่ ๆ ทั้งหลายพากันถอนตัว เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่งานก็จะยังคงมีการจัดต่อไปตามแผนที่วางไว้ แต่จะจำกัดการเข้าถึงของผู้เข้าร่วมงานจากประเทศจีน และถึงแม้ว่าผู้จัดแสดงสินค้ารายใหญ่บางรายจะถอนตัว แต่ก็ยังมีบริษัทที่เข้าร่วมงานมากกว่า 2,800 ราย ผู้จัดงานกล่าวว่าจะดำเนินการคัดกรองด้วยอุณหภูมิและเพิ่มการทำความสะอาดในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างอย่างห้องจัดเลี้ยง, ห้องน้ำ, ไมโครโฟน และหน้าจอสัมผัสในจุดต่าง ๆ ทั่วงาน และปฎิเสธการเข้าร่วมงานของคนที่อยู่ในประเทศจีนช่วงสองสัปดาห์ก่อนงาน ที่มา : https://edition.cnn.com/2020/02/10/tech/mobile-world-congress-coronavirus/index.html https://www.smartsme.co.th/content/233007
26 เม.ย. 2565
"องค์กรคุณธรรม จริยธรรม" DIPROM CENTER 7
การขับเคลื่อนหน่วยงาน ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เป็นองค์กรคุณธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
26 เม.ย. 2565
ดีพร้อมแคร์ใช้ซอฟต์แวร์ไทยผ่านระบบ i-lndustry
ดีพร้อมแคร์ใช้ซอฟต์แวร์ไทยผ่านระบบ i-lndustry ข่าวดีจากจากกองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังมองหาซอฟต์แวร์ เพื่อจะนำไปใช้ในการพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการในสถานประกอบการของท่าน โดยสามารถทดลองใช้ฟรีเป็นเวลา 6 เดือน : Software On Cloud : Full Option หากท่านสนใจทดลองใช้ซอฟต์แวร์ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดข้อมูล ตาม link https://shorturl.asia/zdPp3 ☉ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ กลุ่มเชื่อมโยงธุรกิจดิจิทัลอุตสาหกรรม 02-430-6871 (ต่อ2)
26 เม.ย. 2565