เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เตือนว่า “บิทคอยน์” (Bitcoin) สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำของโลก เป็นสินทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูงและไม่มีประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมอย่างยิ่ง “มันเป็นสินทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูงและผู้คนควรตระหนักว่ามันอาจมีความผันผวนอย่างมาก ดิฉันกังวลว่านักลงทุนอาจเผชิญการขาดทุนก็เป็นได้” เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการประชุมนิวยอร์กไทม์ส ดีลบุก (New York Times DealBook) เยลเลนแสดงความกังวลว่าบิทคอยน์อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมที่ไม่มีประสิทธิภาพอย่างมาก และการประมวลผลธุรกรรมเหล่านั้นก็ใช้พลังงานปริมาณมาก ความคิดเห็นของเยลเลนมีขึ้นขณะราคาบิทคอยน์ตกลงถึงร้อยละ 17 อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 48,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.44 ล้านบาท) เมื่อวันจันทร์ (22 ก.พ.) หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์อยู่ที่มากกว่า 58,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.74 ล้านบาท) ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนหลายแห่ง ระบุว่าแม้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบิทคอยน์อยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30 ล้านล้านบาท) เมื่อวันศุกร์ (19 ก.พ.) แต่บิทคอยน์ยังคงห่างไกลจากการเป็นสินทรัพย์การลงทุนหลัก ทั้งยังเกิดความเสี่ยงจากการประเมินราคาสูงเกินจริงและความผันผวนของราคา “ความจริงคือไม่มีใครทราบว่ามูลค่าของสินทรัพย์ปลอมประเภทนี้คืออะไร มันไม่มีมูลค่าใดๆ เพราะว่ามันไม่มีรายได้และไม่มีประโยชน์ ซึ่งเป็นการเล่นเก็งกำไรบนฟองสบู่ตามความคาดหวังของตัวเอง” นูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง กล่าวกับยูฮู ไฟแนนซ์ ไลฟ์ ที่มา: สำนักข่าวซินหัว https://www.smartsme.co.th/content/243762

คนเนียนแอบดู เกม! “Netflix” ทดสอบมาตรการ จำกัดการแชร์แอกเคาน์ เฉพาะครัวเรือนเดียวกัน ใครไม่เกี่ยวแต่รู้ Passwords อดดู Netflix Inc สตรีมมิงยักษ์ใหญ่กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ โดยขอให้ผู้ซื้อแพ็กเกจตรวจสอบว่าผู้เข้าชมรายอื่นนั้นเกี่ยวข้องกับเจ้าของบัญชีจริงๆ หรือไม่ ซึ่งวิธีการนี้อาจนำไปสู่การระงับรหัสผ่านที่แบ่งปันกันออกไปในหลายๆ คน ขณะนี้มีผู้ใช้ Netflix จำนวนไม่น้อยได้รับข้อความขอให้ยืนยันว่าอาศัยอยู่กับเจ้าของบัญชี โดยต้องป้อนรายละเอียดเป็นตัวอักษร หรืออีเมลที่ส่งถึงเจ้าของ “การทดสอบนี้จะช่วยให้แน่ใจ ว่าผู้ที่ใช้บัญชี Netflix ได้รับอนุญาตจากเราแล้ว” โฆษก Netflix กล่าว ทั้งนี้ ข้อกำหนดในการให้บริการของ Netflix ระบุว่า ผู้ใช้บัญชีจะต้องอาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าการตรวจสอบนี้จะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้นหรือไม่ ที่มา: reuters, https://www.smartsme.co.th/content/243860

หากย้อนกลับไปในช่วง 20 ปีที่แล้ว แบรนด์มือถือยอดนิยมของผู้คนในยุคนั้นคงหนีไม่พ้น Nokia ที่ครองตลาดมือถือด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์ Nokia อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีที่พัฒนานาอย่างก้าวกระโดด การเข้ามาของคู่แข่งในตลาดอย่าง iPhone และระบบแอนดรอยด์ ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนทางธุรกิจจากที่เคยรุ่งสุดขีดกลับร่วงลงมาเป็นธุรกิจสัญญาณเครือข่ายเท่านั้น แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีการปรับปรุง และพัฒนาระบบปฏิบัติการให้มีความทันสมัยแล้วก็ตาม มาวันนี้ Nokia เดิมพันครั้งสำคัญของธุรกิจ เมื่อมีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยการปรับลดพนักงาน 10,000 ตำแหน่ง ภายในระยะเวลา 2 ปี และพร้อมเข้าสู่ตลาดการแข่งขันเครือข่ายสัญญาณ 5G สำหรับการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ของ Nokia คาดการณ์ว่าจะลดต้นทุนได้ 600 ล้านยูโร (715 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ภายในปี 2023 โดยการตัดสินใจของผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายนี้ที่ลดพนักงานมากถึง 10% เป็นผลมาจากผลประกอบการในรายงานประจำปีที่นักลงทุนต่างผิดหวังกับรายได้ของการดำเนินธุรกิจ ไม่เพียงเท่านั้น Pekka Lundmark ซีอีโอของ Nokia วางแผนชัดเจนที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน มีผลกำไร และรีเซตระบบเพิ่มฐานต้นทุนของการลงทุนในอนาคต โดยพร้อมมุ่งไปที่เครือข่าย 5G กับเป้าหมายการเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้านสถานการณ์การแข่งขันในตลาดเครือข่าย 5G ตอนนี้ พบว่ามีการแข่งขันที่ดุเดือน ไม่ว่าจะเป็น Ericsson, Huawei รวมถึง Samsung ที่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ พร้อมเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งต้องมาดูกันว่าสุดท้าย Nokia จะสามารถพลิกธุรกิจให้กลับมาผงาดได้อีกครั้งตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้หรือไม่ ต้องมาคอยติดตามกัน ที่มา : bloomberg https://www.smartsme.co.th/content/243885

ปัจจุบันการส่งเดลิเวอรี ทั้งอาหาร พัสดุ กลายเป็นที่นิยมของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคไม่เหมือนเดิม จากแต่ก่อนที่เราเห็นการเดินทางไปนั่งรับประทานอาหารในร้าน มาวันนี้ทุกอย่างสามารถสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน โดยไม่ต้องเสียเวลาออกจากบ้าน เช่นเดียวกับการจัดส่งพัสดุ ด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอีคอมเมิร์ซทำให้ผู้บริโภคมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดผู้ให้บริการขนส่งพัสดุหน้าใหม่ขึ้นมากมาย เหล่านี้จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แน่นอนว่ายานพาหนะสำคัญที่จะใช้ในการจัดส่งสินค้า คือรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ หากมีการปล่อยเช่าคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งตอนนี้ ‘อีทราน (ไทยแลนด์)’ สตาร์ทอัพยานยนต์สัญชาติไทย ได้เปิดตัว ETRAN MYRA รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ปล่อยเช่าวันละ 150 บาท อีทราน (ไทยแลนด์) มีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยในปี 2564 ธุรกิจได้ระดมทุนสู่ Series A ด้วยมูลค่าราว 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 100 ล้านบาท จากบริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางล้อรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทย และ Angel investor หรือนักลงทุนอิสระ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยการแนะนำ 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้ อีทราน (ไทยแลนด์) ยังเปิดตัว ETRAN MYRA รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่เจาะกลุ่มไรเดอร์เดลิเวอรี และกลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะ รองรับการขยายตัวของเทรนด์ผู้บริโภค นายอาร์ชวัส เจริญศิลป์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) พูดถึงที่มาที่ไปว่า บริการเดลิเวอรีเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นส่งผลให้ธุรกิจขนส่งพัสดุเติบโต รวมถึงการส่งอาหารแบบเดลิเวอรีที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีผู้เล่นเข้ามาให้บริการมากขึ้นกว่าเดิม “อีทรานมองเห็นโอกาสจึงพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ETRAN MYRA โดยตั้งเป้าส่งมอบให้กับลูกค้า 1,000 คัน ภายในสิ้นปี 2564” สำหรับ ETRAN MYRA เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับขับขี่ในเมือง สามารถทำความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. วิ่งส่งงานได้ต่อเนื่องไกลที่สุดเท่าที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีมา ด้วยระยะทางต่อการชาร์จถึง 180 กม. และเพื่อให้ไรเดอร์เดลิเวอรีเป็นเจ้าของ ETRAN MYRA ได้ในราคาประหยัด ทางบริษัทจึงออกบริการเปิดให้เช่าในราคาเพียงวันละ 150 บาท ซึ่งในราคานี้รวมบริการ Swap แบตเตอรี่ที่สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ ETRAN Power Station ได้ 1 ครั้งต่อวัน ซึ่งเพียงพอกับการใช้เดลิเวอรี่ในแต่ละวัน โดยผู้ใช้สามารถใช้บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ที่ ETRAN Power Station ได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาชาร์จ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ขับขี่ ที่มา : https://www.smartsme.co.th/content/244365

ธนาคารแห่งประเทศไทย เตรียมทดลองใช้สกุลเงินดิจิทัลออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ช่วงไตรมาส 2/2565 ให้กับภาคประชาชน สำหรับแผนงานสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ทางธนาคารแห่งประเทศไทยทำการศึกษา และพัฒนาเรื่อยมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงิน ใช้จ่ายได้อย่างสะดวก ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งการออกสกุลเงินดิจิทัลของ CBDC สามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินได้ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ อีกทั้ง ยังเป็นการประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในภาคการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนในระบบการเงิน ตลอดจนการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินให้นำมาสู่การเกิดบริการทางการเงินในหลากหลายรูปแบบในอนาคต เช่นเดียวกับประชาชนที่สะดวกต่อการพกพาเคลื่อนย้าย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่าจะเริ่มทดลองใช้สกุลเงินดิจิทัลนี้กับภาคประชาชนในวงจำกัด ช่วงไตรมาส 2/2565 หลังจากเริ่มเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน ทั่วไป รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชน จนถึงวันที่ 15 มิ.ย.64 ที่มา : https://www.smartsme.co.th/content/244004

แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ (LG Electronics) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ ประกาศแผนการถอนตัวออกจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือในปีนี้ เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุนมานานหลายปี แถลงการณ์จากแอลจีระบุว่าการตัดสินใจปิดหน่วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารในช่วงเช้าวันจันทร์ (5 เม.ย.) ท่ามกลางผลประกอบการที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากการรับมือการแข่งขันอันดุเดือดกับคู่แข่งรายใหญ่อื่น ๆ อย่างไม่เพียงพอ หน่วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือของแอลจีจะปิดตัวลงอย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม ขณะสายการผลิตจะสิ้นสุดภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม เพื่อจัดส่งผลิตภัณฑ์แก่พันธมิตรทางธุรกิจตามสัญญา อย่างไรก็ดี แอลจีจะให้การสนับสนุนด้านบริการ และการอัปเดตซอฟต์แวร์ผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือที่ลูกค้าใช้งานอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งและขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค ทั้งนี้ แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเคยเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เผชิญภาวะขาดทุนในธุรกิจโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2015 แอลจีชี้แจงว่าการถอนตัวจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่มีการแข่งขันสูงครั้งนี้จะช่วยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรในธุรกิจอื่นๆ ที่กำลังเติบโต อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์เชื่อมต่อ อุปกรณ์สมาร์ตโฮม หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ และการให้คำแนะนำแก่การค้าแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) ตลอดจนแพลตฟอร์มและบริการอื่นๆ ทั้งนี้ แอลจีจะยังคงใช้ประโยชน์จากความชำนาญด้านโทรศัพท์มือถือ และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน ซึ่งรวมถึง 6จี (6G) เพื่อเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันในภาคธุรกิจอื่น ๆ ต่อไป ที่มา: สำนักข่าวซินหัว https://www.smartsme.co.th/content/244014

เชื่อว่าหลายคนคงอยากลิ้มลองกาแฟหอมกรุ่นที่ชงโดยหุ่นยนต์ ว่าจะแตกต่างกับกาแฟที่ชงโดยมนุษย์หรือไม่ วันนี้เราจะพาไปชมบรรยากาศงานสัปดาห์กาแฟในนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-11 เม.ย. นี้ โดยภายในงานมีการจัดแสดงฝีมือการชงกาแฟของกองทัพ ‘หุ่นยนต์บาริสต้า’ จากหลากหลายบริษัท โดยหุ่นยนต์เหล่านี้สามารถทำกาแฟได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดริป หรือกระทั่งลาเต้อาร์ต เจ้าหน้าที่จากบริษัทหุ่นยนต์ชงกาแฟแห่งหนึ่งกล่าวว่าเครื่องชงกาแฟของบริษัทสามารถชงกาแฟได้มากถึง 400 แก้วต่อวัน อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจได้แก่ตู้ชงกาแฟที่สามารถทำน้ำแข็งได้ภายในเวลา 3 วินาที อันเป็นผลงานนวัตกรรมที่ร่วมกันสร้างขึ้นโดยกลุ่มวิศวกร 38 คน โดยมีการผสมผสานเทคโนโลยีต่าง ๆ ไว้มากมาย เช่น เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและระบบอัตโนมัติ ทั้งยังได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ รัสเซีย สเปน แลประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ดี ผู้ก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตตู้ชงกาแฟรุ่นนี้กล่าวว่า ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะใหม่ๆ และรสชาติใหม่ๆ ของกาแฟนั้น ยังคงต้องอาศัยฝีมือของบาริสต้าซึ่งเป็นมนุษย์อยู่ดี ที่มา: สำนักข่าวซินหัว https://www.smartsme.co.th/content/244028

อำนาจเจริญ ระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2565 - ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) มอบหมายให้ กลุ่มพัฒนาการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม ร่วมประสานหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมเปิดตัวการใช้ตราสัญลักษณ์ และศูนย์จำหน่ายสินค้าของสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมคลัสเตอร์สมุนไพรและอาหารเพื่อสุขภาพ จังหวัดอำนาจเจริญ ณ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า สวนสาธารณะมิ่งมงคล (หอนาฬิกา) โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ นายธนูสินธ์ ไชยสิริ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน

ยโสธร 10 มีนาคม 2565 ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) มอบหมายให้ นายกฤษณะ นอขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ประจำจังหวัดยโสธร โครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME พ.ศ.2565 ณ ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยโสธร โดยมี นายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธาน.สำหรับโครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME , โครงการสินเชื่อสร้างโอกาสเสริมสภาพคล่อง SME , โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู SME จะสามารถช่วยให้เอสเอ็มอีที่มีความต้องการเงินทุนในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และสามารถคงการจ้างงานได้ และนอกจากมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินแล้ว กองทุน ฯ ยังมีชุดโครงการส่งเสริมพัฒนาต่าง ๆ ไว้ให้บริการแก่ SME อีกด้วย เช่น การให้คำแนะนำเรื่องการจัดทำแผนความต่อเนื่องของธุรกิจ หรือที่เรียกว่า Business Continuity Plan การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจด้วยระบบออโตเมชั่น และการเชื่อมโยงงานวิจัยสู่การตลาด เป็นต้น.#DIPROM #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่7

อำนาจเจริญ 10 มีนาคม 2565 ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) มอบหมายให้ นายฉาย ทองละมุล ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงานภูมิภาค เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ โครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME พ.ศ.2565 ณ ห้องประชุมพระมงคลมิ่งเมือง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมี นายธนูสินธ์ ไชยสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธาน กรอบวงเงินคำขอสินเชื่อ 55 ล้านบาท . #DIPROM #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่7 #DIPROMCENTER7