โทรศัพท์ 1358
การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
แท็ก:
กลุ่มธนาคาร ลงทุนสตาร์ทอัพเรื่อง AI Fintech และ Data Analytics
กลุ่มธนาคาร ลงทุนสตาร์ทอัพเรื่อง AI Fintech และ Data Analytics
กรุงศรี ฟินโนเวต เดินหน้ายึดความเป็นผู้นำด้าน Corporate Fintech Accelerator โดยมุ่งเน้นไปในการพัฒนาสตาร์ทอัพด้าน AI, Data Analytics และ Fintech บริษัทตั้งเป้าหมายลงทุนตรง (Direct Investment) ในสตาร์ทอัพระดับ Series A และ Series B ที่มุ่งเน้นในเรื่องเทคโนโลยี AI และ Data Analytics เป็นหลัก ซึ่งมองหาโอกาสในการลงทุนทั้งกับสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน โดย Silot จะเป็นสตาร์ทอัพรายแรกที่กรุงศรี ฟินโนเวต ตัดสินใจลงทุนในปีนี้ โดย Silot เป็นสตาร์ทอัพจากสิงคโปร์ โดยผู้ก่อตั้งชาวจีน ซึ่งให้บริการด้านแพลตฟอร์มด้านการธนาคารแบบครบวงจร และมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี AI การลงทุนใน Silot จะเสริมสร้างและพัฒนาระบบชำระเงินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำ Corporate Fintech Accelerator ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 ปี โดยในปีที่ผ่านมาสามารถขยายขอบเขตการเปิดรับ ดึงดูดสตาร์ทอัพจากสิงคโปร์และเวียดนามเข้าร่วมโครงการ ความร่วมมือและการลงมือปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริงส่งผลให้สตาร์ทอัพสามารถเติบโตในอัตราเร่งที่รวดเร็วกว่าเดิม เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสตาร์ทอัพที่ร่วมโครงการเป็นอย่างมาก ที่มา : www.smartsme.co.th
03 ก.พ. 2565
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ เขมราษฎร์ธานีโมเดล
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ เขมราษฎร์ธานีโมเดล
อุบลราชธานี 2 กุมภาพันธ์ 2565 ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) จัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อย่างครบวงจรและสอดคล้องกับบริบทพื้นที่เขมราษฎร์ธานีโมเดล (เฉพาะอุตสาหกรรมสร้างสรรค์) ภายใต้กิจกรรมการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่การแข่งขันเศรษฐกิจวิถีใหม่ โครงการยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรม วิสาหกิจชุมชน เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ เติมองค์ความรู้ แนวคิด ออกแบบ พัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ มีการบรรยาย การแบ่งกลุ่ม การสาธิต การทดลองการปฏิบัติจริง จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ณ โรงแรมแลโขง ริเวอร์ รีสอร์ท จ.อุบลราชธานี เป็นวันที่ 3 โดยมี รศ.ดร.ศักดิ์ชาย สิกขา, รศ.ดร.ประทับใจ สุวรรณธาดา, อ.เสกสันต์ ศรีสันต์ ร่วมเป็นวิทยากร.เจ้าหน้าที่่นางเปลี่ยน จำปาหอม, นางสาวกุณชานัน มาศรักษา, นายสังวาลย์ จันทะเวช.#DIPROM #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่7
02 ก.พ. 2565
ฟินเทคออกตัวแรง เปิดบัตรเครดิตสำหรับธุรกิจ e-commerce ดิวยาว 60 วัน
ฟินเทคออกตัวแรง เปิดบัตรเครดิตสำหรับธุรกิจ e-commerce ดิวยาว 60 วัน
บัตรอีคอมเมิร์ซของ Brex เสนอวงเงินเครดิตปลอดดอกเบี้ย 60 วันโดยมีวงเงินตั้งแต่ 1 หมื่นถึง 1 ล้านดอลลาร์ ข้อเสนอแบบนี้ดีกว่าบัตรเครดิตแบบเก่า 3-5 เท่าเลยทีเดียว Brex ธุรกิจบัตรเครดิตที่เพิ่งเปิดทำการได้เพียง 22 เดือน ก็กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 1.1 พันล้านดาลลาร์ไปแล้ว กำลังคิดการใหญ่อีกครั้งด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คือบัตรเครดิตสำหรับ อีคอมเมิร์ซ บัตรใบแรกที่จะสั่นสะเทือนวงการบัตรเครดิตทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะทำการซื้อในวันใดของเดือน คุณยังไม่ต้องชำระเงินไปจนกว่าจะครบ 60 วัน นั่นเป็นเพราะวันที่ครบกำหนดสำหรับบัตร Brex ไม่ได้วิ่งตามวันเวลาบนปฏิทินแบบเก่าที่จะต้องนัดกันทุกสิ้นเดือน ตัวอย่างเช่นหากคุณซื้อสินค้าในวันที่ 1 มกราคม Brex จะดึงเงินจากบัญชีธนาคารของคุณเพื่อชำระค่าใช้จ่ายในวันที่ 2 มีนาคม Brex เชื่อว่าบริษัทบัตรเครดิตไม่เคยเสนออะไรแบบนี้มาก่อน คุณสมบัติการนับวันเวลาครบกำหนดของทุกรายการแบบนี้ เกิดจากเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน แน่นอนว่ามันเป็นซอฟต์แวร์เฉพาะตัวของ Brex โดยกลุ่มเป้าหมายของบัตรแบบนี้คือ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพราะบริษัทเหล่านี้จ่ายเงินก้อนโตไปกับค่าใช้จ่ายรวมถึงสินค้าคงคลัง และการโฆษณาออนไลน์ ซึ่ง Brex มีโมเดลการหารายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม เป็นเงิน 5 ดอลลาร์ต่อผู้ใช้ต่อปี คาดหวังจากกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 600,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่กว่า 75,000 บริษัท รู้สึกตื่นเต้นกับสตาร์ทอัพด้านฟินเทคอย่าง Brex แล้วหรือยัง เกือบลืมบอกไปว่านี้คือบริษัทของเด็กหนุ่มรุ่นใหม่อย่าง Dubugras อายุ 23 ปี และ Franceschi อายุ 22 ปี โดยคนแรกเป็น CEO และคนต่อมาคือ COO ของบริษัท ที่มา : www.smartsme.co.th
02 ก.พ. 2565
ประชุมประจำเดือน มกราคม 2565
ประชุมประจำเดือน มกราคม 2565
อุบลราชธานี 2 กุมภาพันธ์ 2565 ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) เป็นประธานการประชุม ประจำเดือน มกราคม 2565 ณ ห้องประชุมผาแต้ม ชั้น 2 อาคารอำนวยการ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 โดยมี นายฉาย ทองละมุล ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงานภูมิภาค, นายกฤษณะ นอขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม, นายสุเทพ ทุตา ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการส่งเสริมอุตสาหกรรมชุมชน, นายพัฒนพงษ์ กลิ่นลั่นทม นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มบริการธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุม ครั้งที่ 1/2565 การเตรียมความพร้อมด้านการปฏิบัติงานให้สอดคล้องต่องบประมาณที่จะได้รับจัดสรร ไตรมาส 3 - ไตรมาส 4 ความคืบหน้าการดำเนินโครงการ/ กิจกรรม พร้อมทั้งระบบที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บข้อมูล เน้นย้ำการจัดกิจกรรมต่างๆ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเคร่งครัด.#DIPROM #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่7
02 ก.พ. 2565
DIPROM เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ สร้างสรรค์อัตลักษณ์ เขมราษฎร์ธานีโมเดล วันที่ 2
DIPROM เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ สร้างสรรค์อัตลักษณ์ เขมราษฎร์ธานีโมเดล วันที่ 2
อุบลราชธานี 1 กุมภาพันธ์ 2565 ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) จัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อย่างครบวงจรและสอดคล้องกับบริบทพื้นที่เขมราษฎร์ธานีโมเดล (เฉพาะอุตสาหกรรมสร้างสรรค์) ภายใต้กิจกรรมการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่การแข่งขันเศรษฐกิจวิถีใหม่ โครงการยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรม วิสาหกิจชุมชน เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ เติมองค์ความรู้ แนวคิด ออกแบบ พัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ มีการบรรยาย การแบ่งกลุ่ม การสาธิต การทดลองการปฏิบัติจริง จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ณ โรงแรมแลโขง ริเวอร์ รีสอร์ท จ.อุบลราชธานี เป็นวันที่ 2.การจัดกิจกรรมดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเคร่งครัด.เจ้าหน้าที่่นางเปลี่ยน จำปาหอม, นางสาวกุณชานัน มาศรักษา, นายสังวาลย์ จันทะเวช.#DIPROM #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่7
01 ก.พ. 2565
DIPROM ลงพื้นที่เขมราษฎร์ธานีโมเดล สร้างขวัญ เสริมกำลังใจ วิสาหกิจชุมชน สรรค์สร้างธุรกิจด้วยนวัตกรรม
DIPROM ลงพื้นที่เขมราษฎร์ธานีโมเดล สร้างขวัญ เสริมกำลังใจ วิสาหกิจชุมชน สรรค์สร้างธุรกิจด้วยนวัตกรรม
อุบลราชธานี 1 กุมภาพันธ์ 2565 ดร.รุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) ลงพื้นที่พบผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก พัฒนาผู้ประกอบการชุมชน วิสาหกิจชุมชนในการประกอบอาชีพและธุรกิจด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ แลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการเข้าสู่เศรษฐกิจวิถีใหม่ สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนาสะแบง สวนกาญจนา และ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมาลีเกษตรอุตสาหกรรม อ.เขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี.เจ้าหน้าที่นายตระกูล อ่อนรัตน์, นายมิตร แสงกล้า.#DIPROM #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่7
01 ก.พ. 2565
Halodoc สตาร์ทอัพด้านสุขภาพแบบครบวงจร หมอ-ยา-ประกัน อยู่ในแอปฯ เดียว
Halodoc สตาร์ทอัพด้านสุขภาพแบบครบวงจร หมอ-ยา-ประกัน อยู่ในแอปฯ เดียว
ทุกวันนี้เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยเราเองก็ไม่ค่อยอยากจะเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพราะไหนจะต้องเสียเวลารอคิวตรวจ รอคิวรับยา แล้วบางครั้งอาจจะต้องรอประกัน หากทำการรวมเอาทุกเรื่องที่ว่ามารวมเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะสามารถเรียกใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้ด้วยแล้วละก็ รับรองแจ้งเกิดได้ไม่ยาก Halodoc คือแพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลที่ประกอบด้วยแอปฯ บนสมาร์ทโฟนและเว็บไซต์ ช่วยให้คนอินโดนีเซียทั่วประเทศ สามารถปรึกษาแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมากกว่า 20,000 คนได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ยอดการใช้งาน Halodoc พุ่งขึ้นมากถึง 2500% ในปี 2561 แสดงให้เห็นความต้องการของผู้คนจำนวนมากที่ต้องการความสะดวกสบายในการดูแลสุขภาพ นอกจากการปรึกษาผ่านแพลตฟอร์มแล้ว ลูกค้าสามารถเรียกเจ้าหน้าที่มาตรวจสุขภาพที่บ้าน หรือใช้แอปฯ สั่งซื้อยาจากร้านขายยามากกว่า 1,300 แห่งที่เข้าร่วมอยู่ในระบบ จากนั้นยาก็จะถูกจัดส่งให้ลูกค้าถึงมือภายใน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ Halodoc ยังจับมือกับโรงพยาบาลและผู้ให้บริการสุขภาพมากกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการเข้ารับบริการจากโรงพยาบาล โดยช่วยให้ลูกค้าใช้เวลารอรับยาน้อยลง พร้อมเชื่อมโยงสิทธิประโยชน์จากประกันอย่างครอบคลุม ทำให้ลูกค้าไม่ต้องใช้เงินสดในการมาโรงพยาบาล จึงไม่น่าแปลกใจที่สตาร์ทอัพอย่าง Halodoc ได้รับการระดมทุนมากถึง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการระดมทุนระดับ Series B ซึ่งเงินที่ระดมทุนได้มา จะถูกนำไปสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ร่วมกับพันธมิตรโรงพยาบาลและบริษัทประกัน พร้อมนำเสนอบริการใหม่ๆ อย่างเต็มรูปแบบในปี 2562 ไอเดียดีมาพร้อมกับการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ก็จะได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนอย่างแน่นอน ใครที่มีไอเดียดีๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องต่างๆ อย่ารอช้าลุกขึ้นมาทำกันเลย เพราะไม่มีเวลาไหนที่เหมาะสำหรับคนหัวคิดทันสมัยเท่ากับตอนนี้แล้ว ที่มา : www.smartsme.co.th
01 ก.พ. 2565
สตาร์ทอัพด้านสกุลเงินดิจิทัล ยอมแพ้เลิกใช้ชื่อ Alibabacoin
สตาร์ทอัพด้านสกุลเงินดิจิทัล ยอมแพ้เลิกใช้ชื่อ Alibabacoin
กลายเป็นเรื่องร้อนแรงข้ามปีเมื่อบริษัทสตาร์ทอัพด้านสกุลเงินดิจิทัลของดูไบ ที่เคยใช้ชื่อสกุลเงินดิจิทัลว่า Alibabacoin และได้ถูกบริษัท Alibaba ของจีนทำการฟ้องร้องว่า ตั้งชื่อแบบนี้มันก็เกินไปอาจจะสร้างความเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายให้กับ Alibaba ซึ่งไม่ได้ทำการออกสกุลเงินดิจิทัลชื่อนี้แต่อย่างใด ล่าสุดหลังจากคำสั่งศาลตัดสินให้ Alibaba จากจีนเป็นฝ่ายชนะ งานนี้ก็ทำให้บริษัท Alibabacoin Foundation ต้องทำการเปลี่ยนชื่อสกุลเงินและชื่อบริษัทไปพร้อมๆ กัน โดยใช้ชื่อใหม่ว่า บริษัท ABBC Foundation และให้บริการสกุลเงินดิจิทัลชื่อว่า ABBC แทน ตามรายงานของ Cointelegraph เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วอาลีบาบาเคยฟ้อง บริษัท Alibabacoin ในตอนนั้น เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์หลังจากที่มีการเสนอขายเหรียญเริ่มต้น (ICO) ในเบื้องต้นระดมทุนได้ 3.5 ล้านเหรียญ ในเดือนตุลาคมปีที่แล้วอาลีบาบาชนะคดีเบื้องต้นกับ Alibabacoin (ในเวลานั้น) ในคดีฟ้องร้องเรื่องการใช้ชื่อ อาลีบาบา ของพวกเขาในศาลแขวงสหรัฐทางตอนใต้ของนิวยอร์ก ล่าสุดรองประธานของ อาลีบาบา กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า บริษัท กำลังพิจารณาการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับซัพพลายเชนข้ามพรมแดน ต้องคอยดูกันต่อไปว่า Alibaba จะออกสกุลเงินดิจิทัลเองหรือไม่ในอนาคต ที่มา : www.smartsme.co.th
31 ม.ค. 2565
รัฐปรับแนวปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ ฉบับใหม่ เพิ่มแต้มต่อ สำหรับผู้ประกอบการที่นำสินค้าMiT ยื่นเสนอราคาภาครัฐ
รัฐปรับแนวปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ ฉบับใหม่ เพิ่มแต้มต่อ สำหรับผู้ประกอบการที่นำสินค้าMiT ยื่นเสนอราคาภาครัฐ
???? ผู้ประกอบการ MiT มีเฮ !! ????????รัฐปรับแนวปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ ฉบับใหม่ เพิ่มแต้มต่อ สำหรับผู้ประกอบการที่นำสินค้าMiT ยื่นเสนอราคาภาครัฐสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดย สายงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ได้เสนอกรมบัญชีกลางปรับแนวทางปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพื่อให้การดำเนินงานเกิดความโปร่งใส และผู้ประกอบการ ทั้งในส่วน MiT และ THAI SME-GP ให้เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างได้ง่ายขึ้นโดย วันที่ 31 มกราคม 2565 กรมบัญชีกลางประกาศยกเลิก ว.845 และกำหนดแนวทางการปฏิบัติฯ ใหม่ ตาม ว. 78 มีมาตรการใหม่ ดังนี้MiTยกเลิก การกำหนดใน TORหรือSpec ว่ามีผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย MiT จากสภาอุตสาหกรรมฯ ตั้งแต่ 6 รายขึ้นไปใหม่ ให้แต้มต่อ 5% กับผู้ประกอบการที่นำสินค้า MiT ยื่นเสนอราคาภาครัฐ ใหม่ กรณีใช้การพิจารณาแบบราคารวม (สินค้าหลายรายการ)โดยมีมูลค่าสินค้า MiT ตั้งแต่ 60% ขึ้นไป ให้แต้มต่อกับรายการสินค้า MiT 5%ใหม่ THAI SME-GP ที่นำสินค้า MiT เสนอขายภาครัฐ ได้แต้มต่อ 15% (จากเดิมปกติ SME-GP ได้แต้มต่อ 10% อยู่แล้ว)THAI SME-GPยกเลิก การกำหนดวิธีคัดเลือก THAI SME-GP ที่มีรายชื่ออยู่ในจังหวัดที่หน่วยจัดซื้อตั้งอยู่ก่อน / จังหวัดใกล้เคียงไม่น้อยกว่า 6 รายยกเลิก การกำหนดให้หน่วยงานรัฐต้องจัดซื้อจัดจ้าง THAI SME-GP ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของงบประมาณ...ใหม่ การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงที่มีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ให้จัดซื้อจัดจ้างกับ THAI SME-GP เป็นลำดับแรกก่อน????ขอเชิญผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าในประเทศไทย ขึ้นทะเบียนขอรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย (MiT) เพื่อสร้างโอกาสทางการค้ากับภาครัฐ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ในประเทศ???? สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและขอขึ้นทะเบียน MiT ได้ที่ www.mit.fti.or.thหรือสแกน QR CODE ด้านล่าง☎️ ติดต่อสอบถามCall Center 1453 กด * หรือโทร02-345-1100 ,1244 และ 1024
31 ม.ค. 2565
ดีพร้อม เสริมทัพสู้ภัย COVID-19 เดินหน้าต่อยอดต้นแบบ 2 ผลงานเครื่องมือแพทย์ พร้อมส่งมอบความห่วงใยสู่บุคลากรทางการแพทย์ 23 แห่ง ทั่วประเทศ
ดีพร้อม เสริมทัพสู้ภัย COVID-19 เดินหน้าต่อยอดต้นแบบ 2 ผลงานเครื่องมือแพทย์ พร้อมส่งมอบความห่วงใยสู่บุคลากรทางการแพทย์ 23 แห่ง ทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ 28 มกราคม 2565 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายวิจักขณ์ รัตนสุวรรณ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม นางเกษสุดา ดอนเมือง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม ร่วมส่งมอบต้นแบบเครื่องมือแพทย์ 2 ผลงาน รวมจำนวนทั้งสิ้น 30 ชิ้น ให้แก่โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน 23 แห่ง ทั่วประเทศ โดยมี ผู้แทนจากสถานพยาบาลดังกล่าวเป็นผู้รับมอบในครั้งนี้ ณ ห้องธารกำนัล พระราชวังพญาไท เขตราชเทวี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การส่งมอบต้นแบบเครื่องมือแพทย์ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการส่งเสริมการขยายผลงานต้นแบบเครื่องมือแพทย์ด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเป็นการพัฒนาและต่อยอดต้นแบบเครื่องมือแพทย์ ซึ่งมุ่งเน้นการประยุกต์เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว รวมทั้งสำรวจความต้องการจากบุคลากรทางการแพทย์และได้ปรับปรุงประสิทธิภาพ ซึ่งได้คัดเลือกต้นแบบเครื่องมือแพทย์ 2 ผลงาน มาปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานจากข้อเสนอแนะของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง จนได้เครื่องมือแพทย์ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง ประกอบด้วย 1. เครื่อง Distancing Stethoscope หูฟังทางการแพทย์ โดยสามารถใช้งานได้ทั้งในรูปแบบ Acoustic Stethoscope ที่แพทย์มีความคุ้นเคย หรือรูปแบบ Bluetooth Wireless ที่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่า 5 - 10 เมตร เพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างแพทย์ผู้ตรวจและผู้รับการตรวจ และ 2. เครื่องติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพาเหมาะสำหรับการใช้งานในหน่วยบริการปฐมภูมิ หรือ หน่วยบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินและสามารถใช้ร่วมกับรถพยาบาลหรือพาหนะฉุกเฉินทางการแพทย์ เพราะมีน้ำหนักเบา มีแบตเตอรี่ในตัวสามารถใช้งานได้กว่า 2 ชั่วโมงต่อเนื่อง รวมทั้งมีหน้าจอระบบ touch screen สามารถขยายหรือลดขนาดคลื่นไฟฟ้าและหยุดหน้าจอชั่วขณะ เพื่อทำการวินิจฉัยอาการได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากกิจกรรมดังกล่าว ได้มีการขยายผล เพื่อจัดเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการและผู้สนใจด้วยการถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานต้นแบบโดยบุคลากรทางการแพทย์ การสาธิตและแนะนำการใช้งานต้นแบบและบรรยายเกี่ยวกับองค์ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจเครื่องมือแพทย์ โดย ดีพร้อม เชื่อมั่นว่าจะสามารถนำไปสู่การใช้งานในสถานพยาบาลต่าง ๆ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพสู่การใช้งานจริงในกลุ่มสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนการยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพของไทยให้มีมาตรฐานในระดับสากล สามารถแข่งขันกับต่างประเทศและเกิดความยอมรับในสายตานานาชาติต่อไปได้ในอนาคต ### PR.DIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว
31 ม.ค. 2565