“กินอาหารเป็นยา” เทรนด์ผู้บริโภคมาแรง พาธุรกิจไทยสู่เวทีโลก
.
ในยุคที่สุขภาพคือความมั่งคั่ง เทรนด์ “กินอาหารเป็นยา” กลายเป็นแนวทางใหม่ของผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะหลังวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้คนหันมาใส่ใจอาหารเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรค และดูแลสุขภาพมากขึ้น ประเทศไทยในฐานะ “ครัวของโลก” มีศักยภาพสูงในการต่อยอดเทรนด์นี้ ผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่เน้นความยั่งยืนและมูลค่าเพิ่ม
ข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ชี้ว่า:
• ในช่วงปี 2555–2564 ไทยผลิตสินค้าอาหารฟังก์ชันกว่า 1,684 รายการ หรือ 6.5% ของสินค้าทั้งหมด สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก (5.4%)
• จุดเด่นของอาหารฟังก์ชันไทย ได้แก่:
o มีสารต้านอนุมูลอิสระ
o บำรุงสมองและระบบประสาท
o ช่วยระบบเผาผลาญ
o บำรุงหัวใจและหลอดเลือด
o เสริมระบบย่อยอาหาร
วัตถุดิบไทย เช่น สมุนไพรท้องถิ่น ขมิ้นชัน ขิง หรือแม้แต่เยื่อเปลือกไข่ ล้วนมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ทั้ง “ดีต่อร่างกาย” และ “ดีต่อเศรษฐกิจไทย”
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารเป็นยา:
• ชาสมุนไพรเพื่อผ่อนคลาย
• เครื่องดื่มขิงผสมขมิ้น ลดอักเสบ
• โปรตีนบาร์สำหรับคนรักสุขภาพ
• นมแลคโตสฟรี สำหรับผู้แพ้น้ำตาลนม
โอกาสนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของผู้ประกอบการไทยในการสร้างนวัตกรรมอาหารสุขภาพ ปรับตัวให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมตั้งรับกฎเกณฑ์ของตลาดโลกด้วยข้อมูลและวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ
ถึงเวลาแล้วที่ไทยจะส่งออก “อาหารเป็นยา” สู่นานาชาติ ไม่ใช่แค่ในฐานะอาหาร แต่ในฐานะ “โซลูชันเพื่อสุขภาพของโลก”
#อาหารเป็นยา #กินอาหารเป็นยา #BCGเศรษฐกิจใหม่ #เทรนด์สุขภาพ #อาหารไทยไปไกลระดับโลก #สนค #พาณิชย์นาวี
.
แหล่งที่มา : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า. (2565, 20 พฤษภาคม). ‘กินอาหารเป็นยา’ เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ สร้างธุรกิจมาแรง ฟื้นเศรษฐกิจไทยให้ไปต่อได้ในเวทีโลก. SALIKA. https://www.salika.co/.../you-are-what-you-eat-trend.../