หมวดหมู่
RaySecur ระบบสแกนหาสิ่งแปลกปลอมในพัสดุ ก่อนนำเข้าสำนักงาน
ในแต่ละวันมีคนส่งพัสดุจำนวนมากมายเข้ามาไปยังสำนักงานต่างๆ แล้วคุณเชื่อได้อย่างไรว่ามันจะไม่มาพร้อมกับวัตถุอันตรายในรูปแบบต่างๆ RaySecur ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้คุณได้ สตาร์ทอัพจากบอสตันรายนี้ ใช้เทคโนโลยีการสแกนแบบเรียลไทม์ 3 มิติ ทำให้สามารถสกัดกั้นและตรวจจับภัยคุกคามที่มารวมกันอยู่ในห้องจดหมายก่อนที่จะถูกกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ของสำนักงาน ความปลอดภัยห้องจดหมาย ฟังแล้วอาจจะไม่ค่อยน่าสนใจ แต่มีหลายองค์กรที่ถูกทำการโจมตีผ่านช่องทางนี้มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการส่งสารพิษในรูปแบบแบบผงหรือของเหลวไปยังบุคคลต่างๆ ในสำนักงาน หรือแม้แต่การส่งฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการ hack wifi เพื่อเปิดช่องทางในการโจมตีด้านไซเบอร์ ทั้งหมดนี้ล้วนเคยเกิดขึ้นมาแล้ว Raysecur ใช้เทคโนโลยีใกล้เคียงกับการรักษาความปลอดภัยที่สนามบิน เพื่อตรวจสอบจดหมายที่น่าสงสัยไม่ว่าจะเป็นซองแบน ๆ หรือพัสดุขนาดเล็ก มันสามารถตรวจจับผงได้แม้มีปริมาณเพียงเล็กน้อย ด้วยความสามารถในการเพิ่มความปลอดภัยตอนนี้มีบริษัทใน Fortune 500 หลายสิบรายเป็นลูกค้าของ Raysecur ตอนนี้ได้รับการระดมทุนในระดับเริ่มต้น เป็นเงินจำนวน 3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้น่าสนใจ และพร้อมจะออกสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ที่มา : www.smartsme.co.th
07 ธ.ค. 2564
ยุโรปกำลังส่งหุ่นยนต์ไปเก็บขยะนอกโลก
ในขณะที่เรากำลังเร่งทำการแก้ไขปัญหาขยะบนพื้นโลกอยู่นั้น องค์การอวกาศยุโรป (ESA) กำลังเตรียมการส่งหุ่นยนต์ออกไปไล่เก็บขยะอวกาศที่ลอยอยู่เต็มวงโคจรของโลก องค์การอวกาศยุโรป บอกว่าได้เวลาที่เราจะต้องทำการเก็บกวาดขยะอวกาศที่เกิดจากเศษซากของดาวเทียมที่หมดอายุ ส่วนประกอบที่ไม่ได้ใช้ของจรวด ซึ่นตอนนี้คาดว่ามีชิ้นส่วนเหล่านี้มากกว่า 170 ล้านชิ้นลอยอยู่ในวงโคจรของโลก หากทิ้งไว้จะเป็นอันตรายและอุปสรรคต่อการขนส่งทางอวกาศ เพราะชิ้นส่วนเหล่านี้จะมีการชนกันเองแล้วแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย บางชิ้นส่วนวิ่งด้วยความเร็วที่เร็วกว่ากระสุนปืน ภารกิจ ClearSpace-1 จึงเกิดขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่จะมีการส่งหุ่นยนต์ขึ้นไปทำการเก็บซากชิ้นส่วนที่เกิดการสะสมในอวกาศตั้งแต่ปี 1957 โดยหุ่นยนต์ที่ว่านี้เป็นผลงานของสตาร์ทอัพชื่อ ClearSpace จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ การทำงานของมันก็คือการไล่เก็บขยะอวกาศ จากนั้นก็ทำการพุ่งตัวเองพร้อมขยะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ เพื่อให้ทุกอย่างถูกเผาไหม้ให้หายไป โครงการนี้มีแผนจะเริ่มในต้นปี 2020 ซึ่งจะเป็นการทดสอบการเก็บขยะในวงโคจรต่ำ ก่อนที่จะเริ่มทำอย่างเต็มรูปแบบในปี 2025 ที่มา : www.smartsme.co.th
06 ธ.ค. 2564
สตาร์ทอัพให้บริการด้านการส่งของด้วยโดรน เตรียมส่งอาหารในไอร์แลนด์ต้นปี 2020
เรามักจะได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานโดรนในการส่งของว่า “วันหนึ่งจะถึงเวลาของการส่งอาหารด้วยโดรน แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้” ข้อมูลใหม่ล่าสุดบอกว่าปีหน้ามันจะเริ่มต้นแล้วในไอร์แลนด์ Mana คือสตาร์ทอัพที่ให้บริการเรื่องของ Drone Delivery - As a Service โดยบริการจัดส่งโดรนสำหรับส่งของสำหรับธุรกิจที่ต้องการ มันมีความสามารถในการบินได้นานและไกล นอกจากนี้ยังทนทานในทุกสภาพอากาศ มันบินอยู่ในระดับสูงไม่เกิน 500 ฟุต ทำให้หมดปัญหาเรื่องรบกวนการบินของเครื่องบิน ที่สำคัญมันถูกสร้างด้วยเทคโนโลยีระดับการบินและอวกาศของสหรัฐฯ เลยทีเดียว บริการแรกที่จะเริ่มทำคือการส่งอาหารจากแพลตฟอร์มการสั่งอาหารออนไลน์ ซึ่งเมื่อทำการเลือกรายการอาหารแล้ว จะได้รับการส่งมอบอาหารภายใน 3 นาที เห็นได้ชัดว่าวิธีการนี้ถูกและเร็วกว่าการขนส่งแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลอย่างชานเมืองและชนบท บริการโดรนส่งอาหารนี้จะเริ่มเปิดให้บริการในประเทศไอร์แลนด์ต้นปีหน้า หลังจากนั้นมีแผนจะเข้าไปให้บริการในสหรัฐอเมริกาต่อไป ที่มา : www.smartsme.co.th
05 ธ.ค. 2564
ใช้ AR เพิ่มข้อมูลบนขวดสำหรับนักดื่ม
แบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นถูกจำกัดด้วยจำนวนข้อมูลทางการตลาดที่พวกเขาสามารถวางลงบนผลิตภัณฑ์ สตาร์ทอัพจากสิงคโปร์รายนี้ทำให้ข้อมูลมากมายไปอยู่บนขวดผ่านทาง AR เทคโนโลยีได้ ไวน์และเบียร์ทุกขวดมีข้อมูลมากมายที่สามารถยกระดับประสบการณ์การดื่ม ไม่ว่าจะเป็นที่มาของส่วนผสมส่วนผสม วิธีการจับคู่กับอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ วิธีการดื่ม ข้อมูลเหล่านี้มากเกินกว่าที่จะนำไปใส่ไว้บนขวดจริงของไวน์และเบียร์ ปัญหานี้กำลังจะหมดไปด้วยการนำเอาเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้ นี่เป็นที่มาของแอปพลิเคชันจากสตาร์ทอัพอย่าง Omniaz ผลิตแอปฯ ที่ชื่อว่า DRNK AR ออกมาให้พร้อมจะทำให้ข้อมูลเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นเคล็ดลับในการดื่ม ข้อมูลสถานที่ของผู้ผลิตว่าอยู่ภูมิภาคไหนหรือผลิตจากประเทศใด รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ อีกมากมายที่อยากจะใส่เข้าไป โซลูชันนี้จะทำให้ข้อจำกัดของฉลากบนขวดหมดไป ด้วยคุณสมบัตินี้จะทำให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตนต่อผู้บริโภค รวมถึงการออกแคมเปญทางการตลาดร่วมกับร้านค้าต่าง ๆ ได้อีกด้วย ตอนนี้บริษัทกำลังมองหาการสนับสนุนภาษาเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี และไทย เนื่องจากเป้าหมายหลักของลูกค้าคือภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นี่เป็นอีกหนึ่งผลงานของสตาร์ทอัพในสิงคโปร์ที่มีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจออกไปทั่วโลก ที่มา : www.smartsme.co.th
04 ธ.ค. 2564
“ไวน์เก่าในกระป๋องใหม่” สตาร์ทอัพในแอฟริกาใต้เปิดโอกาสใหม่ของการส่งออก
สตาร์ทอัพในแอฟริกาใต้หวังแก้ไขปัญหาเรื่องของราคาและความยุ่งยากในการส่งออกของไวน์บรรจุขวด โดยนำเสนอทางเลือกใหม่ที่เบากว่าสะดวกต่อการขนส่ง และแน่นอนว่าราคาจะถูกลง ถึงแม้ว่าไวน์บรรจุกระป๋องจะมีวางขายอยู่แล้วในสหรัฐอเมริกาและบางส่วนของยุโรป แต่สำหรับในแอฟริกาใต้ประเทศที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของผู้ผลิตไวน์ของโลก การนำไวน์มาบรรจุกระป๋องเป็นความแปลกใหม่ที่กำลังเริ่มต้นขึ้น Uncanny Wines บริษัทสตาร์ทอัพแห่งเมืองเคปทาวน์ เมืองซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของแอฟริกาใต้กล่าวว่า มีการกำหนดเป้าหมายของไวน์บรรจุกระป๋องไปที่นักดื่มในประเทศเป็นอันดับแรก แต่ก็มีบางส่วนสำหรับตลาดส่งออก ไวน์แดงและไวน์พรีเมี่ยมบรรจุกระป๋องของบริษัท เป็นรายแรกที่ผ่านการรับรองโดยคณะกรรมการไวน์ของแอฟริกาใต้ อีกทั้งยังได้รับการตอบรับแบบล้นหลามในช่วงแรกที่ทำการเปิดตัว ต่อจากนี้ไปในอีกไม่กี่สัปดาห์คนทั้งประเทศจะได้ลิ้มลอง นอกจากนี้ Uncanny Wines ยังใกล้ที่จะส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาในเร็ววันนี้ ซึ่งตลาดแห่งนี้ให้การตอบรับกับไวน์แบบกระป๋องเป็นอย่างดี และอีกตลาดหนึ่งที่ให้การยอมรับในเรื่องนี้ก็คือตลาดในยุโรป Uncanny ขายไวน์กระป๋องขนาด 250 มล. ในราคาประมาณ 80 กว่าบาท สตาร์ทอัพรายนี้จะเปลี่ยนประสบการณ์การดื่มไวน์ ให้กลายเป็นเรื่องที่ไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยาก แค่แช่ไว้ในตู้เย็นก็พร้อมจะดื่มได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว ที่มา : www.smartsme.co.th
03 ธ.ค. 2564
Vessel สตาร์ทอัพที่ต้องการเพิ่มการใช้ซ้ำ เพื่อลดจำนวนขยะกว่า 40 ล้านชิ้นต่อปี
ตอนนี้ทุกประเทศกำลังหาทางลดจำนวนของขยะพลาสติกกันอย่างเร่งด่วน สตาร์ทอัพรายนี้ก็พยายามช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่เช่นกัน บริการที่ว่านี้คือบริการให้ยืมแก้วนั่นเอง Vessel จะมีการเริ่มต้นทดลองใช้ใน California จากร้านกาแฟในท้องถิ่นจำนวน 9 ร้าน ซึ่งร้านกาแฟเหล่านั้นไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติม สิ่งที่ร้านจะมอบให้กับ Vessel ก็คือเงินจำนวน 25 เซ็นค์ต่อการใช้งานแก้ว 1 ใบเท่านั้นเอง โดยแก้วของ Vessel นั้นเป็นแก้วสแตนเลสมีฝาปิดเป็นซิลิโคน ผ่านการออกแบบมาอย่างทันสมัย ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ สามารถทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ Vessel พร้อมเชื่อมต่อกับระบบการตัดเงินที่ใช้ในการมัดจำแก้ว โดยเมื่อทำการคืนแก้วในจุดที่ให้บริการก็จะได้เงินมัดจำคืนเต็มจำนวน แต่ถ้าหากต้องการใช้งานแก้วของ Vessel เป็นการถาวรหรือไม่คืนก็ต้องสามารถทำได้ เพียงเลือกจ่ายเงินเพียง 15 เหรียญก็จะกลายเป็นเจ้าของแก้วทันที โมเดลของธุรกิจสตาร์ทอัพรายนี้จะต้องบริหารจัดการเรื่องของการรับและล้างแก้ว ที่จะถูกส่งคืนในจุดต่าง ๆ ที่จะต้องเพิ่มขยายออกไปตามจำนวนคนใช้งาน ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือการปรับตัวของผู้บริโภคที่จะหันมาใช้แก้วแบบใช้ซ้ำ แล้วจึงค่อยเปลี่ยนเป็นการใช้แก้วส่วนตัวในที่สุด ความคาดหวังที่ทำเรื่องนี้ก็คือ ต้องการลดจำนวนแก้วกระดาษแบบใช้แล้วทิ้งที่มีจำนวนมากถึง 40 ล้านใบต่อปีนั่นเอง ต้องมาคอยลุ้นกันต่อว่า Vessel จะสามารถทำการระดมทุนเพิ่มได้หรือไม่ในรอบต่อไป ที่มา : www.smartsme.co.th
02 ธ.ค. 2564
จีนเปิดให้บริการ ‘แท็กซี่ไร้คนขับ’ รับ-ส่งผู้โดยสารฟรี
คณะกรรมการจัดการเขตใหม่เซียงเจียง (Xiangjiang New Area) ของนครฉางซา เมืองเอกของมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน เผยว่าฉางซาได้เปิดให้บริการรถแท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติแก่สาธารณชน จำนวน 30 คัน ผู้โดยสารสามารถเรียกใช้บริการรถแท็กซี่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือที่กำหนด โดยรถแท็กซี่แต่ละคันจะมีช่างเทคนิค 1-2 คนนั่งอยู่ด้วยภายในรถเพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้โดยสาร “แท็กซี่หุ่นยนต์” (Robotaxis) หรือแท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติดังกล่าว ดำเนินการโดยบริษัทหูหนาน อพอลโล อินเทลลิเจนต์ ทรานสปอร์ตเทชัน (Hunan Apollo Intelligent Transportation) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตใหม่เซียงเจียง ขอบเขตของการเรียกใช้บริการนั้นอยู่ที่ราว 130 ตารางกิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมชุมชนที่อยู่อาศัย พื้นที่เชิงพาณิชย์และสันทนาการ และพื้นที่อุตสาหกรรมในเขตเมือง โดยผู้โดยสารสามารถสังเกตสภาพถนน ความเร็วและเส้นทางในการขับขี่ ตลอดจนเปิดเพลงได้ผ่านทางแท็บเล็ต ทั้งนี้ ฉางซาได้เริ่มทดลองให้บริการรถแท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติแก่กลุ่มประชากรที่ได้รับคัดเลือก เมื่อเดือนกันยายน 2019 ที่มา : www.smartsme.co.th
01 ธ.ค. 2564
Bite Toothpaste Bits ยาสีฟันแบบอัดเม็ด เลิกใช้พลาสติกได้อย่างถาวร
ยาสีฟันถือว่าเป็นของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของพวกเรา และหลอดของมันก็กลายเป็นอันดับของขยะที่สร้างปัญหาให้กับโลกของเราเช่นกัน นี่คือยาสีฟันที่จะทำให้คุณเลิกสร้างขยะพลาสติกได้อย่างถาวร Asher Hunt และ Lindsay McCormick สองผู้ก่อตั้งของ Bite Toothpaste Bits เล่าให้เราฟังว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการที่พวกเขาต้องเดินทางบ่อย ๆ แล้วก็พบว่าหลอดยาสีฟันขนาดเล็กที่พกติดตัวไปนั้น ไม่เคยถูกใช้หมดเลยสักครั้งพวกมันจะถูกทิ้งไว้ในกระเป๋าเดินทางจนหมดอายุ แล้วก็กลายเป็นขยะให้กับโลกใบนี้ แน่นอนว่าพวกยาสีฟันหลอดใหญ่ก็สร้างปัญหาให้กับโลกใบนี้ไม่น้อยไปกว่ากัน พวกเขาจึงทำการศึกษาส่วนประสมของยาสีฟัน เพื่อต้องการลดปัญหาของขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นจากหลอดของยาสีฟัน แล้วพวกเขาก็หาทางออกได้ด้วยการทำ “ยาสีฟันชนิดเม็ด” ออกมา เมื่อยาสีฟันกลายเป็นเม็ดมันก็ไม่จำเป็นต้องมีหลอดพลาสติกอีกต่อไป จากนี้ไปยาสีฟันก็จะถูกเก็บเอาไว้ในขวดแก้วแทน และเมื่อคุณต้องเดินทางการพกติดตัวก็จะเป็นเรื่องง่าย เพียงหยิบยาสีฟันติดตัวไปไม่กี่เม็ดทุกอย่างก็จบแล้ว ธุรกิจ Bite Toothpaste Bits ของพวกเขากำลังไปได้ดี แต่ต้องการทุนในการขยายตัว พวกเขาเข้าไปในรายการ Shark Tank เพื่อขอเงินลงทุน 325,000 ดอลลาร์แลกกับหุ้น 5% โดยมีผลประกอบการที่น่าสนใจตรงที่ว่ายาสีฟันของพวกเขามีต้นทุน 3.15 ดาลลาร์ แต่ขายได้ราคาถึง 12-30 ดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนสนใจที่จะทำการลงทุน แต่ต้องการหุ้นมากขึ้นอยู่ที่ 15% สองผู้ก่อตั้งบอกว่าหุ้น 15% ถือว่ามากเกินไป พวกเขาให้ได้เต็มที่แค่ 7% เท่านั้น เป็นอันว่าพวกเขาปฏิเสธเงินลงทุนจาก Shark Tank ส่วนหนึ่งมาจากการที่ธุรกิจของพวกเขาไม่ได้มีนายทุนคนอื่นและไม่มีหนี้สินใด ๆ ในการทำธุรกิจ จึงสามารถปฏิเสธนายทุนได้เมื่อเงื่อนไขไม่ลงตัว ที่มา : www.smartsme.co.th
30 พ.ย. 2564
สตาร์ทอัพสุดล้ำเปิดตัวคอนแทคเลนส์อัจฉริยะ ที่จับเอา AR มาใส่ไว้ในดวงตา
สตาร์ทอัพรุ่นเก๋าทำการยกเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ไปใส่ไว้ในดวงตา สร้างคอนแทคเลนส์อัจฉริยะที่ทำให้การแสดงผลบนโลก AR ออกมาสมจริงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อทำการสวมคอนแทคเลนส์ของ Mojo Vision คุณจะพบกับการนำเสนอข้อมูลและการแสดงผลที่ดีที่สุด สามารถตอบโต้เลือกการทำงานด้วยการเพ่งสายตาไปยังไอคอนต่าง ๆ บนหน้าจอ ซึ่งก็คือดวงตาของคุณนั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่ซุ่มทำการพัฒนามานานกว่า 10 ปี จะถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา โดยใช้ AR ในการการซ้อนทับภาพที่ปรับปรุงแล้วทำให้เห็นเหมือนปกติได้ และหากทำได้มันจะกลายเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในการสาธิตแสดงให้เห็นว่าคอนแทคเลนส์สามารถฉายจอแสดงผล LED ขนาดเล็กไปยังเรตินาของดวงตาทำให้คนที่สวมใส่มองเห็นส่วนประกอบเพิ่มเติมต่าง ๆ ขึ้นมาได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้การเพ่งสายตาให้โฟกัสส่วนต่าง ๆ เพื่อทำการควบคุมการทำงานได้อีกด้วย เวอร์ชั่นปัจจุบันจะเป็นการส่งและรับข้อมูลแบบไร้สายผ่านกล่องส่งสัญญาณแบบพกพา ซึ่งสามารถติดตั้งไว้กับเข็มขัด แต่พวกเขาหวังว่ามันจะสามารถเชื่อมโยงโดยตรงกับสมาร์ทโฟนได้ในอนาคต ที่มา : www.smartsme.co.th
29 พ.ย. 2564
จีนสั่งหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อ ผลงานของสตาร์ทอัพในเดนมาร์ก
ตอนนี้โรงพยาบาลในประเทศจีนได้รับความช่วยเหลือจาก UVD Robots ซึ่งเป็นหุ่นยนต์จากผลงานของสตาร์ทอัพชื่อ Blue Ocean Robotics ของเดนมาร์ก UVD Robots ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำหน้าที่ในการฆ่าเชื้อโรคด้วยการขับเคลื่อนด้วยตัวเอง โดยมีการใช้แสงอุลตร้าไวโอเลตในการฆ่าเชื้ออย่างไวรัสและแบคทีเรีย หุ่นยนต์รุ่นนี้ราคาประมาณ 2.1 ล้านบาท ถูกส่งไปประจำการแล้วกว่า 40 ประเทศ ตอนนี้หุ่นยนต์รุ่นนี้ได้ถูกส่งเข้าประจำการยังยังโรงพยาบาลในประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ผ่านทางข้อตกลงของ Sunay Healthcare Supply ที่ต้องการใช้หุ่นยนต์ทำการฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ของจีน เชื่อว่าหุ่นยนต์รุ่นนี้จะสามารถฆ่าเชื้อได้ในทุกซอกทุกมุมของโรงพยาบาลอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผู้บริหารของ Blue Ocean Robotics กล่าวว่า “หุ่นยนต์ของเราใช้อัลกอริธึมขั้นสูงทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์พิเศษ เพื่อทำการฆ่าเชื้อได้แบบครอบคลุมทุกพื้นผิวด้วยความเข้มข้นของแสงที่เหมาะสมเพียงพอที่จะทำการฆ่าไวรัส นอกจากนี้เรายังมีฐานข้อมูลที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่ไหนถูกปนเปื้อนด้วยแบคทีเรียและไวรัสชนิดใด” Blue Ocean Robotics เพิ่งทำการปิดรอบการระดมทุนมูลค่า 372 ล้านบาทในเดือนธันวาคม 2019 ทำให้มั่นใจได้ว่า หุ่นยนต์ฆ่าเชื้ออัตโนมัติมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน ที่มา : www.smartsme.co.th
28 พ.ย. 2564