โทรศัพท์ 1358

5 วิธีก้าวสู่การเป็นสตาร์ทอัพสุดว้าว ‼️
5 วิธีก้าวสู่การเป็นสตาร์ทอัพสุดว้าว ‼️????แม้หลายคนจะมองว่าสตาร์ทอัพนั้นเป็นเพียงแค่ธุรกิจเล็กๆแต่ก็มีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้สามารถพัฒนาและเติบโตได้ เนื่องจากกลุ่มนี้ถือเป็นฟันเฟืองเล็กๆที่จะสร้างพลังทางการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ สามารถปรับเปลี่ยนเข้าสู่อุตสาหกรรมหรือตลาดกลุ่มใหม่ในอนาคต ทั้งยังจะช่วยทำให้เกิดทั้งบริการ ผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมใหม่ๆ แต่อย่างไรก็ตามการจะเป็นสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จอาจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยกสอ.ยังมองว่าการจะสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพให้อยู่รอดได้นั้นจะต้องมีคุณสมบัติหรือองค์ประกอบหลักคือ????????‍♂️ทำสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นหรือพัฒนาแล้วแต่ยังไม่ตอบโจทย์????????‍♂️สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงใจผู้บริโภค????????‍♂️ต่อยอดจากธุรกิจเดิมและเติมประโยชน์เพิ่มรองรับความต้องการใหม่????????‍♂️เพิ่มบริการหรือกลุ่มสินค้าให้มีความหลากหลาย????????มีความคิดสร้างสรรค์ที่แหวกแนวไม่เหมือนใคร
20 มิ.ย. 2560
เจาะลึกโอกาสทางธุรกิจใน “สังคมผู้สูงวัย” ตั้งแต่ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่-อาหาร-แฟชั่น-ที่พัก จนถึงหุ่นยนต์บริการคนชรา
โลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีประชากรที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปถึง 36.9 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.89 ของประชากรทั้งหมดในอาเซียน สำหรับประเทศไทยมีประชากรกว่า 66 ล้านคน มีจำนวนผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปี ประมาณ 6.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 9.9 ของประชากรทั้งหมดของประเทศ ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุมากเป็นอันดับสองของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ ถือได้ว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging Society) แล้ว และในปี พ.ศ. 2563 คาดว่าประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเพิ่มเป็นร้อยละ 14.4 ซึ่งจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ ผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงอายุนี้ถือได้ว่าเป็นกลุ่มประชากรที่มีอำนาจต่อรองในการซื้อ และมีกำลังซื้อสูง เนื่องจากมีเงินเก็บจากการทำงานหนักมาทั้งชีวิต จึงมีศักยภาพสูงในการบริโภค สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการ ได้แก่ ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ, ธุรกิจอาหาร/แปรรูปอาหารที่เน้นไขมันต่ำไม่มีคอเลสเตอรอล น้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาลเลย ฯลฯ, ธุรกิจผลิตเครื่องสำอาง ประเภทออร์แกนิกผลิตจากธรรมชาติหรือสมุนไพร กำลังได้รับความสนใจจากผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีสรรพคุณต่อต้านริ้วรอย (Anti-Ageing) ยกกระชับลดรอยกระจุดด่างดำ, ธุรกิจท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงวัย, เฟอร์นิเจอร์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งมีข้อจำกัดในการดำเนินชีวิต เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถอย และสถานพักฟื้นหรือสถานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นธุรกิจอันดับต้นๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยคาดว่าในระยะแรกจะเป็นโอกาสของธุรกิจที่ให้บริการดูแลผู้สูงอายุเป็นระยะสั้นๆ และขยายเป็นการพักฟื้นระยะยาว (Longstay) เป็นต้น วารสารอุตสาหกรรมสารได้นำเรื่องราวของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัยซึ่งเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่กำลังเปลี่ยนไป นำมาตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารฉบับนี้ >> ดาวน์โหลดวารสารอุตสาหกรรมสารฉบับต้อนรับหน้าฝน ประจำเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2560 คลิกที่นี่ << พบกับวารสารอุตสาหกรรมสารฉบับต้อนรับหน้าฝน ประจำเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2560 วารสารรายสองเดือนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม วารสารที่ช่วยจุดประกายแนวคิด ติดปีกผู้ประกอบการไทยให้แข็งแกร่ง เผยแพร่ยาวนานกว่า 59 ปี ฉบับนี้มาพร้อมเนื้อหาสาระจากกูรูและผู้มีประการณ์จริงที่จะมาเปิดเผยหลากประเด็นเด็ด ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการในการทำธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจผู้สูงอายุ เปิดรับโอกาสธุรกิจแห่งอนาคตกันแบบเจาะลึกก่อนใคร และอีกหลากหลายเรื่องราวน่ารู้อัดแน่นในฉบับ..พลาดไม่ได้ สนใจติดต่อขอรับใบสมัครสมาชิกได้ฟรี!!...ที่กลุ่มประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 หมายเลขแฟกซ์ 0-2354-3299 หรือส่งอีเมลมาที่ e-journal@hotmail.com หรือดาวน์โหลดอุตสาหกรรมสารออนไลน์ได้ที่ http://e-journal.dip.go.th ที่มา : manager
15 มิ.ย. 2560
กสอ.อัดงบ 44 ล้านบาท เปิดตัว 5 แอปพลิเคชันกระตุ้น ผปก.เข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถ่ายภาพรวมกับคณะทำงาน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเผย กสอ.ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 44 ล้านบาททำ 5 แอปพลิเคชัน คาดหวังเป็นตัวช่วยให้ผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจ และผู้ประกอบการ SMEs ในการลดต้น และลดความยุ่งยากในการทำบัญชีและการเงิน พร้อมกับแนะนำเว็บไซต์แหล่งเรียนรู้ใหม่ของการประกอบธุรกิจในยุคดิจิตอล ตั้งเป้าภายใน 3-4 เดือนจะมีผู้สนใจดาวน์โหลดใช้ทั้ง 5 แอปพลิเคชันไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย ชี้ปัจจุบัน SMEs เข้าถึงดิจิตอลเพียง 550,000 ราย จาก 2.8 ล้านราย ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กสอ.ได้ใช้งบประมาณจำนวน 44 ล้านบาททำการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในยุคดิจิตอลอีโคโนมี ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งในปี 2560 ได้จัดทำ 5 แอปพลิเคชันที่มาเป็นตัวช่วยผู้ประกอบการ ได้แก่ 1. Money Flow Application ระบบควบคุมการรับและจ่ายเงินสด กระแสเงินสด 2. Billing Flow Application ระบบขายและออกบิลสำหรับร้านค้าที่ซื้อมาขายไป 3. Stock Flow Application ระบบควบคุมสต๊อกสินค้า สำหรับธุรกิจที่ซื้อมาและขายไป 4. DIP Business Evaluation Application แอปพลิเคชันสำหรับประเมินผลการดำเนินงานและผลประกอบการธุรกิจ 5. DIP Business Plan Application ระบบการจัดทำแผนธุรกิจสำหรับธุรกิจการผลิตรายย่อย ทั้งนี้ ทั้ง 5 แอปพลิชันดังกล่าวจะเป็นปัจจัยช่วยเสริมให้ผู้ประกอบการในการลดต้นทุน ลดความล่าช้า และความซับซ้อนที่จะเกิดขึ้นรายวัน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเม่นยำในการทำบัญชี และการเงิน อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการใช้ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งทั้ง 5 ระบบนี้มีความพร้อมที่ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้จริง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นอกเหนือจาก 5 แอปพลิเคชันข้างต้น ทาง กสอ.ยังได้มีช่องทางบริการออนไลน์อื่นๆ ที่มาเป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการหรือบุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ดังนี้ 1. www.NEClearning.com แพลตฟอร์มการเรียนรู้การเริ่มต้นธุรกิจผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 2. www.bsc.dip.go.th เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลข่าวสาร กิจกรรมต่างๆ และตัวอย่าง SMEs ที่ประสบความสำเร็จ เป็นกรณีศึกษาที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดได้ 3. www.e-consult.dip.go.th เป็นเว็บไซต์ที่คอยให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สำหรับผู้ที่เจอปัญหา หรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ และ 4. www.id-society.com เป็นเว็บไซต์คลังไอเดียที่รวบรวมแรงบันดาลใจ ไอเดียผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย นักออกแบบ และสินค้าวัตถุดิบ ช่วยให้ง่ายต่อการค้นหาการออกแบบอุตสาหกรรมทั้งหมด ดร.พสุกล่าวต่อว่า จากสถิติ SMEs ที่มีอยู่กว่า 2.8 ล้านราย พบว่ามีเพียง 20% หรือ ประมาณ 550,000 รายที่นำระบบเทคโนโลยีและเครื่องมือออนไลน์มาประยุกต์ใช้ในกิจการดำเนินธุรกิจของตนเอง (ที่มา:สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ องค์การมหาชน) ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องเร่งปรับตัวให้เข้ากับทักษะการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และแอปพลิเคชันที่มีการพัฒนาขึ้นมาจำนวนมาก และเปิดให้บริการใช้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อในอนาคตจะก้าวทันโลกแห่งการค้าที่ไร้พรมแดน โดย กสอ.คาดหวังว่าแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นมานี้จะต้องมีคนเข้ามาใช้บริการภายใน 3-4 เดือน จำนวนมากกว่า 1 แสนราย สำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร. 1358 หรือที่ www.bsc.dip.go.th
15 มิ.ย. 2560
รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ประชุมเพื่อรับฟังการบรรยายสรุปภารกิจของงบประมาณปี 60
วันที่ 1 มิ.ย. 60 รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี) พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักและศูนย์ภาค ภายใต้กำกับดูแล อาทิ ผอ.สพส.กสอ. ผอ.กพข. 2 กสอ. ผอ.ศภ. 4 กสอ. ผอ.ศภ. 5 กสอ. ผอ.ศภ. 7 กสอ. รก.ผอ.ศภ. 6 กสอ. ร่วมด้วย ผอ.สบก.กสอ. และ เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 5 6 และ 7 เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังการบรรยายสรุปภารกิจของงบประมาณปี 60 ของแต่ละศูนย์และรับมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงานจาก รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ณ ศภ. 5 กสอ.
01 มิ.ย. 2560
" SME บัญชีเดียว" วันที่ 29-30 มิถุนายน 2560
ฟรี ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 เปิดรับสมัคร ผู้สนใจเข้าร่วมอบรมโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ " SME บัญชีเดียว" อบรมรุ่นที่ 2 วันที่ 29-30 มิถุนายน 2560 ห้องประชุมชั้น 3 ตึกอินทนิล มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี รับสมัครตั้งแต่วันนี้ - 28 มิถุนายน 2560 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม นายพัฒนพงษ์ กลิ่นลั่นทม 08900611562 นายสุเทพ ทุตา 0885912174 e-mail : pattanapong@dip.go.th Download เอกสารได้ที่ https://goo.gl/VU1PCB
26 พ.ค. 2560
"กระทรวงอุตฯ ดีเดย์ "คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ" คลิกออฟ "สงขลา" นำร่องขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน"
"กระทรวงอุตฯ ดีเดย์ "คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ" คลิกออฟ "สงขลา" นำร่องขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน" จ.สงขลา 24 พฤษภาคม 2560 - ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "คลินิกอุตสาหกรรมสัญจรแนวประชารัฐ" พร้อมทั้งบรรยายพิเศษเกี่ยวกับมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินตามแนวประชารัฐ ซึ่งมีกองทุนช่วยเหลือ SMEs ดังนี้ กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 20,000 ล้านบาทสินเชื่อ SME Transformation Loan 15,000 ล้านบาทกองทุนพลิกฟื้น SME 1,000 ล้านบาทและกองทุนฟื้นฟู SME 2,000 ล้านบาท เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจของประเทศ โดย กระทรวงอุตสาหกรรมจัด RoadShow "คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ" เพื่อเสริมสร้างการรับรู้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐในพื้นที่นำร่อง 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา เชียงใหม่ พิษณุโลก อุดรธานี อุบลราชธานี นครปฐม ชลบุรี และกระบี่ ทั้งนี้มี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ณโรงแรมหรรษาเจบีหาดใหญ่ จ.สงขลา ### PR.DIP (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สบก.กสอ) :รายงาน/ภาพข่าว
24 พ.ค. 2560
นางแน่งน้อย เวทยพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ศภ.7
วันที่ 31 มี.ค.60 เวลา 09.00 น. นางแน่งน้อย เวทยพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ศภ.7 โดยมี ผอ.ศภ.7 กสอ. และเจ้าหน้าที่ ศภ.7 ให้การต้อนรับ
31 มี.ค. 2560
นางแน่งน้อย เวทยพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้บรรยายในหัวข้อ "นโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม
วันที่ 31 มี.ค.60 นางแน่งน้อย เวทยพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้บรรยายในหัวข้อ "นโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs " ในงาน เปิดสินเชื่อ SMART SMEs บัญชีเดียว เอสเอ็มอี 4.0 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่า จังหวัดอุบลราชธานี
31 มี.ค. 2560
นางแน่งน้อย เวทยพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม บรรยายในงาน RISE 2017
วันที่ 31 มี.ค.60 นางแน่งน้อย เวทยพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้บรรยายในหัวข้อ นโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในงาน มหกรรมแสดงสินค้านวัตกรรม และผลงาน Start Up อุบลราชธานี 2017 RISE 2017 ณ ลานอะควาเริ่ยม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่า จังหวัดอุบลราชธานี
31 มี.ค. 2560